คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
มีความแจ่มชัดเป็นอย่างมากจากพรรคเพื่อไทยในเรื่องของ “การปรองดอง” อันขับเคลื่อนมาจาก 1 คสช. และ 1 รัฐบาล
ความแจ่มชัดของพรรคเพื่อไทยดูตรงไหน
ตอบได้เลยว่า 1 ดูจาก นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล 1 ดูจาก นายจาตุรนต์ ฉายแสง และ 1 ดูจาก นายสามารถ แก้วมีชัย รวมถึง 1 ดูจาก นายนพดล ปัทมะ
ที่สำคัญเป็นอย่างมาก 1 ดูจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย
เพราะว่า 4 คนแรกที่หยิบยกมาอ้างอิงถือได้ว่าแนบแน่นอยู่กับพรรคเพื่อไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะมีมรสุมหนักหนาสาหัสเพียงใด ก็ยังยืนหยัดไม่เคยแปรเปลี่ยน
ส่วน นายภูมิธรรม เวชยชัย นั้นเล่นบทเป็น “เลขาธิการพรรค”
ขณะเดียวกัน เมื่อมีเสียงสำทับอันหนักแน่นและจริงจังดังมาจาก นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็ย่อมเป็นเครื่องการันตีอย่างเป็นพิเศษ
พรรคเพื่อไทยขานรับเต็มที่ต่อ “การปรองดอง”
ยิ่งหากตรวจสอบผ่าน “น้ำเสียง” ของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ประสานเข้ากับของ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ยิ่งมองว่า “ความหวัง” ของพวกเขาวางอยู่ตรงไหน
ตอบได้เลยว่าอยู่ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
คนระดับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ คนระดับ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ย่อมมองทะลุว่าเมื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ลงมาเล่นด้วยตัวเองย่อมสะท้อนว่า
“เอาจริง”
ที่ว่า “เอาจริง” เท่ากับยืนยันว่า กองทัพเล่นด้วย เท่ากับว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีหลังพิงอันแข็งแกร่งและมั่นคง ขณะเดียวกัน หากไม่มีความมั่นใจ บุคคลระดับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คงไม่ลงมาในแบบทุ่มสุดตัว
“น้ำหนัก” จึงวางไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
คำถามที่เสนอมาด้วยความงุนงงสงกาเป็นอย่างสูงว่า เหตุปัจจัยใดทำให้พรรคเพื่อไทยขานรับต่อแนวทาง “ปรองดอง” ครั้งหลังนี้อย่างเต็มเปี่ยม
คนที่ตอบคำถามนี้ได้อย่างดี คือ นายสามารถ แก้วมีชัย
คำตอบ 1 ก็คือ พรรคเพื่อไทยเคยเสนอและผลักดันในเรื่องปรองดอง สมานฉันท์ ตั้งแต่ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 มาแล้ว
อย่าลืมคำขวัญที่จะเข้ามา “แก้ไข” อันพรรคเพื่อไทยเสนอเป็นอันขาด
คำตอบ 1 ก็คือ พรรคเพื่อไทยให้เกียรติคสช. ให้เกียรติรัฐบาล เมื่อคสช.และรัฐบาลเป็นคนริเริ่มและลงมือทำและตรงกับแนวทางที่พรรคเพื่อไทยเคยเสนอ จึงไม่มีเหตุผลอะไรต้องปฏิเสธ
เป็นการขานรับและให้โอกาส พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
การปรองดองเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายามสูงเป็นพิเศษ จึงต้องให้โอกาสและรอคอย
หากการปรองดองเป็นเรื่องง่ายดายก็คงสำเร็จมาแล้วตั้งแต่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ พยายาม และคงสำเร็จมาแล้วตั้งแต่ นายบรรหาร ศิลปอาชา พยายาม
การให้ “โอกาส” จึงเป็นสิ่งที่ “เพื่อไทย” แสดงออกต่อคสช.และต่อรัฐบาล
