วิเคราะห์การเมือง

เหมือนกันว่า มาตรการรุกไล่ในทางการเมือง ในทางเศรษฐกิจ ต่อบรรดาแกนนำแห่งพรรคเพื่อไทยเพื่อที่จะคิดบัญชีและทำลายล้างพรรคและแกนนำของพรรคเพื่อไทย

เป็นเช่นนั้น

เพราะแต่ละมาตรการผลสะเทือนเฉพาะหน้า ไม่ว่าจะต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ว่าจะต่อ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ไม่ว่าจะต่อ นายประชา ประสพดี

คนเหล่านี้ล้วนต้อง “เว้นวรรค” ทางการเมือง

โอกาสที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะนั่งอยู่ในตำแหน่งหมายเลข 1 ของ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่ออีก เป็นไปไม่ได้แล้วโดยสิ้นเชิง

อย่างน้อยที่สุดก็เป็นเวลา 5 ปี

นั่นเท่ากับเป็นการตัดแขนขาของพรรคเพื่อไทย เป็นมาตรการแบบเดียวกับที่เคยกระทำต่อพรรคไทยรักไทยเมื่อเดือนพฤษภาคม 2550 และพรรคพลังประชาชนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551

สร้างความยากลำบากให้กับ “พรรคเพื่อไทย”

ขณะเดียวกัน ผลพวง 1 จากการดำเนินมาตรการรุกไล่ในทางการเมืองและในทางเศรษฐกิจเช่นนั้นทำให้แกนนำหลายคนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

หลายคนต้องขึ้นๆ ลงๆ “ศาล” อย่างต่อเนื่อง

หรือถึงยังไม่ขึ้นๆ ลงๆ ระหว่างบ้านกับศาลก็ต้องเสียเวลาในการชี้แจงและทำความเข้าใจต่อสาธารณะซ้ำแล้วซ้ำอีก

เหมือนอย่างกรณีที่เกิดขึ้นกับแกนนำหลายคนที่เคลื่อนไหวผ่าน “นปช.”

เพียงอีกฝ่ายยื่นเรื่องต่อสำนักงานอัยการสูงสุดให้ทบทวนมาตรการอันเกี่ยวกับการให้ประกันตัวว่ามีการละเมิดหรือไม่ บรรดาแกนนำเหล่านั้นก็แทบไม่ต้องทำอะไรแล้วเพราะต้องขึ้นๆ ลงๆ ระหว่างบ้านกับศาลครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะหากพลาดพลั้งก็อาจต้องเดินเข้าคุกอีก

นั่นเท่ากับทำให้ “การเคลื่อนไหว” ต้องหยุดชะงักไป

ระยะเวลานับจากรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา บรรดาแกนนำและคนสำคัญของพรรคเพื่อไทยและนปช.จึงแทบไม่มีเวลาว่าง

อย่าถามถึงการประชุมพรรคตามปกติ

เพราะว่าประกาศและคำสั่งของคสช.ห้ามชุมนุม ห้ามเคลื่อนไหวในทางการเมืองก็เท่ากับทำให้กิจกรรมของพรรคการเมืองยุติลงโดยพื้นฐาน

ยิ่งหากมี “คดีความ” จาก “อดีต” เข้ามาอีก

บรรดาแกนนำคนสำคัญเหล่านั้นจึงแทบไม่มีโอกาสได้เคลื่อนไหวหรือแสดงความเห็นในทางการเมืองยกเว้นแต่จะเพื่อปกป้องและรักษาสถานภาพของตนเอาไว้เท่านั้น

กิจกรรมของพรรคเพื่อไทยจึงค่อยหดและลดลงตามลำดับ

เวลา 2 ปีเศษนับจากรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา จึงเด่นชัดยิ่งในเป้าหมายของคสช.

เป็นเป้าหมายอันสืบทอดและต่อเนื่องจากรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 อย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแต่เพิ่มความเข้มข้นและรุนแรงอย่างชนิดเป็นทบเท่าทวีคูณ

ยังดำรงจุดมุ่งหมายไม่ให้ “เสียของ” อย่างจริงจัง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน