วิเคราะห์การเมือง : ตรวจสอบ วัดผล ปฏิบัติการ ด้านข่าวสาร คลิปลับ คลิปรัก
วิเคราะห์การเมือง : ทั้งๆ ที่คลิปลับ คลิปรัก อันฉายภาพของนักการเมืองดังระดับ “วัฒนา” กับ นักกิจกรรมดังระดับ “น้องโบว์” ถือได้ว่าเข้าสูตรข่าวอื้อฉาวได้อย่างเหมาะเจาะ
แต่เหตุใดฮือฮาเพียงวัน 2 วันก็หายเงียบ
แม้ว่า บางสื่อ บางคอลัมนิสต์ ไม่ว่าในสื่อหนังสือพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ หรือตามบางเว็บเพจ พยายามโหมฮือ กระพืออย่างเต็มเรี่ยวแรง
กระนั้น เพียงคึกคักได้ไม่กี่วันก็กลับกลายเป็น “ต๋อม”
คำตอบของคำถามนี้น่าจะมาจาก 1 เจตนาและเป้าหมายในการปล่อยคลิปออกมา ขณะเดียวกัน 1 ความเฉียบแหลมในการตั้งรับและพลิกเกมของผู้ตกเป็นเป้าหมาย
จึงแทนที่จะดังระเบิด กลับกลายเป็น “แป้ก”
พิรุธอย่างยิ่งของการปล่อยคลิปนี้ออกมาอยู่ตรงที่เป็นการปล่อยตามพิมพ์เขียวอย่างที่เรียกกันว่า ปฏิบัติการด้านการข่าว หรือ IO อันเป็นความจัดเจนของฝ่ายความมั่นคง
เป็นการปล่อยเพื่อเบี่ยงเบนประเด็น
เป็นการปล่อยในขณะที่ข่าวการจัดงานระดมทุนผ่านโต๊ะจีนมูลค่ากว่า 650 ล้านบาทของพรรคพลังประชารัฐตกเป็นเป้าของสังคม
ว่าเกี่ยวพันกับกระทรวงบางกระทรวง หน่วยงานรัฐบาลหน่วยงาน
เพราะว่าเจ้ากี้เจ้าการในการจัดงานไม่เพียงแต่เป็นรัฐมนตรีอุตสาหกรรม รัฐมนตรีพาณิชย์ รัฐมนตรีวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หากแต่ยังเป็นเส้นสายของผู้กุมอำนาจ
หากปล่อยให้ยืดเยื้อ “อาการ” ย่อมสาหัส
อาจเป็นเพราะความรีบร้อน คลิปลับ คลิปรักที่ปล่อยออกมาจึงมิได้เป็นเรื่องที่สัมพันธ์โดยตรงไม่ว่าเรื่องโต๊ะจีน ไม่ว่าการเคลื่อนไหวของคนที่เป็นตัวละครอยู่ในคลิป
เด่นชัดอย่างยิ่งว่า มีการตามมานานแล้ว ถ่ายไว้นานแล้ว
มิได้เป็นเรื่องสดๆ กะทันหัน และมิได้เป็นเรื่องในแบบของ “ปาปาราซซี่” ตรงกันข้าม กลับสะท้อนให้เห็นอย่างเด่นชัดว่าต้องเป็นเรื่องอันเกี่ยวกับ “ความมั่นคง”
เรื่องอย่างนี้หากมิใช่ “ทหาร” ก็ต้องมาจาก “ตำรวจ”
แม้จะมีการตระเตรียมไว้นานแล้วแต่เนื่องจาก “ปล่อย” ออกมาอย่างไม่เนียนและไม่สอดรับกับสภาพการณ์อย่างเหมาะเจาะ
จึงเกิดความสงสัย จึงเกิดการตรวจสอบอย่างจริงจัง
ยิ่งเมื่อเจ้าตัวอันตกเป็น “เป้าหมาย” มีความบริสุทธิ์ใจและมีความมั่นใจในสิ่งที่ตนกระทำว่ามิได้เป็นความผิด หากเป็นเรื่องส่วนตัวที่ใครๆ ต่างก็ประพฤติปฏิบัติเป็นปกติ
จำเลยจึงกลายเป็นคนที่แอบถ่ายและเผยแพร่
สังคมจึงหันไปประฌาม กล่าวโทษ คนที่กระทำเรื่องอันเลวร้ายนี้ การคอยจ้องจะสหบาทาไม่ว่าจะจากคนที่มุ่งร้ายหมายขวัญหรือคนที่ปล่อยคลิปออกมาจึงกลายเป็น “จำเลย” เสียเอง
เรื่องโต๊ะจีนก็ยังอยู่ แต่เรื่องคลิปกลับหายไปอย่างรวดเร็ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :