พื้นที่การเมืองอภิสิทธิ์ประชาธิปัตย์ กทม.ภาคใต้

พื้นที่การเมืองอภิสิทธิ์ประชาธิปัตย์ : มี 2 พื้นที่ที่พรรคประชาธิปัตย์เล่นบทจงอางหวงไข่อย่างเต็มพิกัด 1 คือ พื้นที่กทม. 1 คือพื้นที่ภาคใต้ เห็นได้จากกำหนดการเดินสายของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

จุดแรกที่เปิดปราศรัยใหญ่ คือ กทม.

เมื่อเสร็จภารกิจในกทม.เรียบร้อยระดับหนึ่งทีมของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เดินทางลงภาคใต้ เริ่มจากสุราษฎร์ธานี ตามมาด้วยนครศรีธรรมราช

แน่นอน ย่อมมี นายชวน หลีกภัย ถือธงนำ

คำอธิบายไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะว่าไม่ว่ากทม. ไม่ว่าภาคใต้ ล้วนเป็นพื้นที่ในความยึดครองของพรรคประชาธิปัตย์มาอย่างยาวนาน

มีความจำเป็นต้องรักษาเอาไว้อย่างเต็มเรี่ยวแรง

มีสถานการณ์บางสถานการณ์ทำให้พรรคประชาธิปัตย์จำเป็นต้องเฝ้าระวังใน 2 พื้นที่คือ กทม.และภาคใต้อย่างเข้มงวด กวดขัน

1 การเกิดขึ้นของพรรครวมพลังประชาชาติไทย

1 การแยกตัวของบางส่วนในกทม.และภาคใต้เข้าไปตามกระแสพลังดูดของพรรคพลังประชารัฐ กับพรรครวมพลังประชาชาติไทย

นี่ย่อมเป็นภาวะหงุดหงิดจากพวกเดียวกัน

ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ ก็ต้องการรุกคืบเข้ามาแย่งยึดโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดขึ้นของพรรคประชาชาติ

ทั้งหมดนี้คือปัจจัยที่พรรคประชาธิปัตย์จะประมาทมิได้

สถานะของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะก้าวหน้าหรือถอยหลังก็ขึ้นอยู่กับชัยชนะ หรือความพ่ายแพ้ในพื้นที่กทม.กับภาคใต้เป็นสำคัญ

พื้นที่อื่นเสมอเป็นเพียงองค์ประกอบ

สถานะในที่นี้เพราะมีความคาดหมายดังกระหึ่มมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับว่าการเลือกตั้งในเดือนมีนาคมที่จะมาถึงพรรคประชาธิปัตย์อาจต่ำร้อย

นี่ย่อมเป็นสถานการณ์อันน่าเจ็บปวดอย่างล้ำลึก

จึงได้มีคำประกาศจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าหากพรรคประชาธิปัตย์กลายเป็นพรรคต่ำร้อยก็จะอำลาจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค

นี่ย่อมเป็นเดิมพันทางการเมืองอันล่อแหลมยิ่ง

การเปิดเกมปักธงในกทม.และตามมาด้วยการเดินสายไปยังภาคใต้ก่อนตระเวนภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคเหนือจึงสำคัญสำหรับพรรคประชาธิปัตย์

สะท้อนสถานะและความเป็นจริง

ความเป็นจริงที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่อยู่ในฐานะคู่ชิงกับ พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อเทียบกับสถานะของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จากพรรคเพื่อไทย

ความเป็นจริงทางการเมืองเช่นนี้น่าเจ็บปวด แต่ก็ยากจะปัดปฏิเสธ

คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน