พื้นที่ กรุงเทพฯ ของ พลังประชารัฐ กับ “สามมิตร”
วิเคราะห์การเมือง
พื้นที่ กรุงเทพฯ – กรุงเทพมหานคร มีความสำคัญเป็นอย่างสูงในทางการเมือง พรรคพลังประชารัฐจึงต้องทุ่มเทให้กับพื้นที่กรุงเทพ มหานครอย่างเป็นพิเศษ
พิเศษแค่ไหนก็ดูจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ หมายเลข 1
ถามว่าเหตุใดชื่อของ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ จึงอยู่หมายเลข 1 เหนือกว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เหนือกว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน
เพราะว่า นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เป็น รองหัวหน้าพรรคอย่างนั้นหรือ
หรือเพราะว่า นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เพิ่งแสดงฝีมืออันเฉียบขาดจากการเลี้ยงโต๊ะจีนกระทั่งสามารถระดมทุนได้มากกว่า 650 ล้านบาท กระนั้นหรือ
อาจใช่ แต่มีมากกว่านั้น
ความน่าสนใจของ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อยู่ตรงที่เขามีฐานคะแนนเสียงอันแข็งแกร่งอยู่ในกรุงเทพมหานคร อันเป็นหัวใจของการเลือกตั้ง
เขาเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน
ยิ่งกว่านั้น ยังเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นกำลังสำคัญร่วมกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในการระดม “มวลมหาประชาชน” เข้ามาสำแดงพลัง
ไม่เพียงแต่ “ชัตดาวน์” กรุงเทพมหานคร หากแต่ยังยึดกรุงเทพมหานคร
ยิ่งกว่านั้น เขาไม่ได้มาเพียงคนเดียวหากแต่ยังมีเพื่อนพ้องอย่างเช่น นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อย่างเช่น นายสกลธี ภัททิยะกุล
พรรคพลังประชารัฐจึงมั่นใจว่าจะสามารถปักธงในกรุงเทพมหานครได้
รูปธรรมแห่งการให้ความสำคัญต่อกลุ่มของ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ มิได้อยู่ที่เขาได้รับการบรรจุอยู่ในบัญชีรายชื่อหมายเลข 1 เท่านั้น
หากแต่พรรคพลังประชารัฐยังส่งสมัครครบ 30 เขต
ขณะเดียวกัน เมื่อมีการเปิดตัวผู้สมัครก็จัดขบวนแห่อย่างชนิดมหึมโหฬาร ทั้ง นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ล้วนอยู่ในขบวนแห่
คึกคักและเข้มข้น
มาดหมายเจาะทะลวงเข้าไปในพื้นที่อันพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยเคยยึดครองอย่างชนิดไม่เกรงใจกัน
ความหมายของการเปิดตัวครั้งนี้ก็เพื่อยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐต้องการเป็นพรรคในขอบเขตทั่วประเทศ มิใช่พรรคของคนต่างจังหวัด
จึงต้องชูบทบาทของ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ สูงเด่น
ขณะเดียวกัน ก็ลดบทบาทไม่ว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ให้ไปอยู่ในสถานะอันเป็นรอง
รองจาก นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เด่นชัด