บทเรียน สำคัญ รัฐประหาร การเลือกตั้ง จาก 24 มีนาคม

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

วิเคราะห์การเมือง – ไม่ว่าในที่สุดผลของการเลือกตั้งจะปรากฏออกมาอย่างไร ชัยชนะเป็นของพรรคเพื่อไทยตามความเชื่อและความหมายของสังคม

พรรคพลังประชารัฐบรรลุเป้าที่อย่างต่ำ 120 ..

พรรคประชาธิปัตย์สร้างปรากฏการณ์สามารถทะยานเหนือกว่าพรรคพลังประชารัฐ เหนือกว่าพรรคเพื่อไทย สามารถเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

พรรคอนาคตใหม่สามารถปักธงก้าวที่ 1 ได้ตามเป้าหมาย

ความรู้สึกร่วมอย่างหนึ่งซึ่งจำหลักอย่างหนักแน่นและเอิบอาบซาบซึมอยู่ภายในเนื้อดินของสังคมไทยก็คือ เห็นและตระหนักในบทบาทของการเลือกตั้ง

รูปธรรมสำคัญสัมผัสได้จากบทบาทที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะมาจากพรรครวมพลังประชาชาติไทย ไม่ว่าจะมาจากพรรคประชาชนปฏิรูป

พรรคประชาธิปัตย์เคยบอยคอตการเลือกตั้งมาแล้ว 2 หน

คนของพรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคประชาชนปฏิรูป เคยร่วมกันสกัดขัดขวางการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557

แต่ในที่สุดท่านเหล่านี้ก็ล้วนเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง

ยิ่งกว่านั้น ภาพของการเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ว่าในต่างประเทศหรือในประเทศ ล้วนยืนยันถึงความเร่าร้อนของพลเมืองที่ต้องการเอาการเลือกตั้งมาเป็นเครื่องสะท้อนความต้องการทางการเมือง

สังคมมีความเชื่อมั่นว่า นับแต่นี้เป็นต้นไปกระบวนการของการเลือกตั้งน่าจะเป็นหนทางออกที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหาและความขัดแย้งที่เกิดขึ้น

พรรคการเมืองไม่ควรเพรียกหารัฐประหาร

ตัวอย่างที่การเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่เชิญชวนทหาร ตัวอย่างที่การเคลื่อนไหวของกปปส.ที่เชิญชวนทหาร

น่าจะเตือนเป็นอย่างดีว่าผลที่สุดเป็นอย่างไร ได้อะไรมาเป็นชิ้นเป็นอันหรือไม่

กระหึ่มแห่งข้อเสนอจะยุติการรัฐประหาร จะมีการปฏิรูปกองทัพ กันทหารออกไปจากวงจรทางการเมืองโดยตรง น่าจะเป็นคำตอบอย่างดีในทางการเมือง

ในที่สุดแล้ว ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร เป็นชัยชนะของพรรคเพื่อไทย เป็นชัยชนะของพรรคพลังประชารัฐ เป็นชัยชนะของพรรคประชาธิปัตย์

น่าจะได้รับการยอมรับจากสังคม

เป็นการยอมรับอย่างให้โอกาสพรรคการเมืองเหล่านั้นได้แสดงฝีมือและความสามารถตั้งแต่การจัดตั้งและเข้าบริหารบ้านเมือง จะดีหรือเลวอย่างไรก็อดทนรอคอย

หากไม่พอใจ อีก 4 ปีก็เปลี่ยนใหม่ผ่านการเลือกตั้ง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน