ชวน หลีกภัย เส้นทาง ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

ชวน หลีกภัย – แม้การออกมา “เบรก” นายถาวร เสนเนียม โดย นายชวน หลีกภัย จะดำเนินไปด้วยความนุ่มนวลและให้เกียรติเป็นอย่างสูง

ทั้งต่อ นายถาวร เสนเนียม

ทั้งต่อพรรคประชาธิปัตย์ เพราะว่าได้ย้ำว่า นายถาวร เสนเนียม จำเป็นต้องรอฟังมติจากคณะกรรมการบริหารพรรค

แต่เพียงแค่นี้ก็สะท้อน “ทิศทาง” แล้ว

เพียงแต่จะเป็นทิศทางอันโน้มไปทางด้านของ นายถาวร เสนเนียม หรือเป็นทิศทางอันโน้มไปทางด้านของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

จะทำความเข้าใจในเรื่องนี้จำเป็นต้องตอบให้ได้ว่าข้อเสนออันมาจากกลุ่มของ นายถาวร เสนเนียม ได้รับอิทธิพลและแรงผลักดันมาอย่างไร

เพราะเป็นข้อเสนอให้ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ

นี่ย่อมมิได้เป็นแนวทางเดียวกับของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างแน่นอน ตรงกันข้าม กลับเป็นแนวทางเดียวกับของพรรครวมพลังประชาชาติไทย

นั่นก็คือ แนวทางของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

หากดูจากตัวบุคคลก็น่าจะใช่เพราะไม่เพียงแต่ นายถาวร เสนเนียม เท่านั้น หาก นายวิทยา แก้วภราดัย หาก นายชุมพล จุลใส ก็เห็นด้วยกับแนวทางนี้

ต้องยอมรับว่าข้อเสนอก่อนการเลือกตั้งของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แม้จะเคยแบะท่าว่าสามารถจะร่วมกับพรรคพลังประชารัฐก็ได้

แต่ก็จะร่วมอย่างมีเงื่อนไข

นั่นก็คือ พรรคพลังประชารัฐจะต้องประกาศว่าไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี

นี่คือกฎเหล็กของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

กฎเหล็กนี้เป็นการชูธง 2 ผืน นั่นก็คือ 1 ไม่ร่วมกับพรรคเพื่อไทย และ 1 ไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐที่จะเปิดทางให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

ความพยายามของกลุ่ม นายถาวร เสนเนียม ก็คือ จะฉวยโอกาสจากความพ่ายแพ้ของพรรคประชาธิปัตย์ มาสละละวางจากหลักการที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยวางเอาไว้

จึงรวบหัวรวบหางจะไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ

การออกมาติดดิสก์เบรกโดย นายชวน หลีกภัย จึงมิได้เป็นการเตือนอย่างธรรมดาแต่เป็นการเตือนบนหลักการและแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์

เท่ากับส่งสัญญาณถึง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน