นาที หวาดเสียว ประชาธิปัตย์ ตัดสินใจ หนุน “ประยุทธ์”
วิเคราะห์การเมือง
นาที หวาดเสียว ประชาธิปัตย์ ตัดสินใจ หนุน “ประยุทธ์” – การตัดสินใจจะร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐในการจัดตั้งรัฐบาลจะส่งผลสะเทือนอย่างสูงต่อพรรคประชาธิปัตย์
เป็นผลสะเทือนต่อ “ภาพลักษณ์” ในสถานะอันเป็น “สถาบัน”
เพราะว่าสิ่งที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศความชัดเจนก่อนวันที่ 24 มีนาคม มิได้เป็นคำประกาศอันเลื่อนลอยว่างโหวง
ตรงกันข้าม กรรมการบริหารพรรคแสดงการเห็นด้วย
เป็นความชัดเจนที่ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นความชัดเจนที่ไม่เห็นด้วยกับการสืบทอดอำนาจของคสช.
พลันที่ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ปรากฏออกมาว่าไม่เพียงแต่พรรคประชาธิปัตย์จะพ่ายแพ้ต่อพรรคเพื่อไทย หากแต่ยังพ่ายแพ้ต่อพรรคการเมืองหน้าใหม่อย่างพรรคอนาคตใหม่
หากแต่ยังพ่ายแพ้ต่อพรรคพลังประชารัฐ
การต่อสู้ระหว่างฝ่ายที่ต้องการการสืบทอดอำนาจ กับฝ่ายที่ไม่ต้องการให้มีการสืบทอดอำนาจจึงเข้มข้นอย่างยิ่ง
ตรงนี้เองคือทางเลือกอันมากด้วยความแหลมคม
ในห้วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้เองที่มีบางส่วนภายในพรรคประชาธิปัตย์ต้องการกดดันให้พรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ
บรรดาคนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องการร่วมรัฐบาล ไม่ว่า นายถาวร เสนเนียม ไม่ว่า นายวิทยา แก้วภราดัย ไม่ว่า นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ล้วนแจ่มชัด
แจ่มชัดว่ามีความเป็นมาอย่างไรในทางการเมือง
แจ่มชัดว่าเคยมีบทบาทร่วมกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในห้วงแห่งการเคลื่อนไหว “ชัตดาวน์” ก่อนการรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
แจ่มชัดว่าเห็นด้วยกับพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย
นั่นก็คือ แหกแนวทางของพรรคที่เคยประกาศว่าไม่เห็นด้วยกับการสืบทอดอำนาจ ไม่เห็นด้วยที่จะเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี
หากเมื่อใดพรรคประชาธิปัตย์มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอจากกลุ่มของ นายถาวร เสนเนียม คนที่ยิ้มอย่างพึงพอใจย่อมเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ยิ่งกว่านั้นย่อมเป็น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
ผลก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ไม่เพียงแต่มีจุดต่างกับพรรคเพื่อไทยอย่างเด่นชัด หากแต่ยังมีจุดต่างกับพรรคอนาคตใหม่อันเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง
เท่ากับพรรคประชาธิปัตย์ไปยืนเรียงเคียงกับพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา เด่นชัดขึ้น