ฟื้น จิตวิญญาณ สถานการณ์ 6 ตุลาคม 19 ปราบ อนาคตใหม่
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
วิเคราะห์การเมือง – การรุกต่อพรรคอนาคตใหม่ ต่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ต่อ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ทำให้ “กลิ่นอาย” ในแบบสถานการณ์เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ได้หวนกลับมา
เมื่อเห็น “ป้าอุ๊” ก็ถวิลหา “ป้าทมฯ” เมื่อเห็นบทบาทของสื่อมวลชนบางสำนัก ก็ทำให้ภาพของ “ดาวสยาม” และ “ยานเกราะ” เรียงล่ายส้ายเข้ามาอย่างเด่นชัด
หากเดินหน้าและสามารถก่อกระแสคงอีกไม่นาน
ขณะเดียวกัน บทบาทของ “ป้าอุ๊” ก็ใช่ว่าจะคึกคักเหมือนกับบทบาทของ “ป้าทมฯ” บทบาทของสื่อบางสำนักก็ใช่จะก่อกระแสได้เหมือน “ยานเกราะ” และ “ดาวสยาม”
จุดต่างอย่างเห็นได้ชัดก็คือ ในยุคเดือนตุลาคม 2519 บรรยากาศของ “สื่อ” เป็นการครอบงำโดยอำนาจรัฐอย่างค่อนข้างเบ็ดเสร็จ
เมื่อกุมสื่อของรัฐประสานกับสื่อเอกชนบางค่าย ก็เรียบร้อยเพราะในยุคเดือนตุลาคม 2519 ถือได้ว่าโครงสร้างของสื่อยังอยู่ในยุคแห่ง “อนาล็อก” รัฐสามารถควบคุมและกำหนดทิศทางของสื่อ
จึงสามารถปลุกและสร้าง “กระแส” ได้ไม่ยาก
แต่เมื่อมาถึงเดือนเมษายน 2562 อันแสดงออกอย่างเด่นชัดว่าการควบคุมสื่อแตกต่างไปจากยุคเมื่อเดือนตุลาคม 2519 อย่างสิ้นเชิงเพราะว่าอยู่ในยุคแห่ง “ดิจิตอล” แล้ว
การดำรงอยู่แห่งยุค “ดิจิตอล” สำแดงออกอย่างเห็นเป็นรูปธรรมจากชัยชนะและความสำเร็จของพรรคอนาคตใหม่ในสนามเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562
แม้จะไม่สามารถเอาชนะพรรคพลังประชารัฐ แต่ก็ชนะพรรคประชาธิปัตย์
พรรคอนาคตใหม่ได้รับเลือกเข้ามาด้วยจำนวนส.ส.ทั้ง 2 ระบบมากกว่า 80 เป็นพรรคอันดับ 3 รองจากพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ
ที่สำคัญพรรคอนาคตใหม่มีพื้นฐานจาก “โซเชี่ยล มีเดีย”
ไม่ว่าจะไม่ชอบพรรคอนาคตใหม่อย่างเข้ากระดูกดำมากเพียงใด แต่ก็ต้องยอมรับว่าพรรคอนาคตใหม่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในพรมแดนแห่งยุค “ดิจิตอล”
ความพยายามของฝ่ายที่ต้องการจัดการบดขยี้และทำลายล้างพรรคอนาคตใหม่จึงได้งัดเอาเครื่องมือในแบบเดียวกับที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วในอดีตมาใช้
เป็นเอาบทเรียนยุค “อนาล็อก” มาในยุค “ดิจิตอล”
แม้จะใช้ผ่านโทรทัศน์ดิจิตอล แม้จะใช้ผ่านโซเชี่ยล มีเดียแห่งยุคดิจิตอล แต่เนื่องจากจิตวิญญาณเป็นในแบบอนาล็อก เครื่องมือนี้จึงไม่ราบรื่นเท่าใดนัก
ไม่แน่ว่าจะสร้างปรากฏการณ์แบบ 6 ตุลาคม 2519 ได้อีกหรือไม่
อ่านข่าว
