ช่องว่าง การเมือง พลังประชารัฐ อนาคตใหม่ ช่องว่าง ใหม่เก่า

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

ช่องว่างการเมือง – ทั้งๆ ที่การโพสต์ข้อความของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ก็ขึ้นหัวเรื่องเด่นชัด ตรงไปตรงมา

“ไม่ต้องการเห็นใครถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง”

แต่เหตุใดจึงปรากฏความหงุดหงิด ไม่พอใจจาก ไม่ว่า นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ แห่งพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่า นายสาธิต ปิตุเตชะ แห่งพรรคประชาธิปัตย์

ไม่น่าเชื่อว่าจะอ่านหนังสือไม่แตก

แต่เพราะเห็นว่าเป็นการเปิดข้อมูลโดย นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เจตนาดีก็ถูกมองว่าเป็นความประสงค์ร้ายไป

ต้องยอมรับว่ากระบวนท่าในทางการเมืองอันมาจากพรรคอนาคตใหม่ได้ก่อให้เกิดเป็นจุดต่างอย่างลึกซึ้งในทางการเมือง

ตั้งแต่เริ่มเปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม 2561 แล้ว

เพราะเป็นการประกาศอย่างทระนงองอาจว่าต้องการสร้างการเมืองในโฉมใหม่ การเมืองที่ไม่มีการซื้อเสียง การเมืองที่ไม่มีหัวคะแนน

เป็นการเมืองที่มีฐาน “อุดมการณ์” เป็นความต้องการ “ปักธงความคิด”

ยิ่งเมื่อผลการเลือกตั้งปรากฏออกมาพร้อมกับคะแนนดิบกว่า 6.2 ล้านคะแนน ที่ประชาชนเทให้กับพรรคอนาคตใหม่ ยิ่งสร้างความหงุดหงิดเป็นทบเท่าทวีคูณ

กระนั้น ภายในความหงุดหงิดจากมูลเชื้อสะสมอื่นๆ ในทางการเมืองเมื่อประสบเข้ากับการโพสต์ในเรื่องบริษัทอันมีวัตถุประสงค์ในธุรกิจสื่อเข้ามาอีก

ยิ่งเหมือนกับการเจาะเข้าไปในโลกอันลี้ลับ

เพราะความเป็นจริงนี้มิได้มีแต่กรณีของ นายภูเบศวร์ เห็นหลอด เแห่งพรรคอนาคตใหม่คนเดียว ตรงกันข้าม ของ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ก็มี ของ นายสาธิต ปิตุเตชะ ก็มี

หากถือบรรทัดฐานของศาลฎีกาก็โดนกันเรียบราบ

นี่คือความหงุดหงิดที่ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และ นายสาธิต ปิตุเตชะ พยายามแก้ต่างให้กับตนเองทั้งๆ ที่ความจริงมิได้แตกต่างเลย

มีปัญหาในการสื่อสารอย่างแน่นอนระหว่างการแสดงออกของพรรคอนาคตใหม่กับพรรคการเมืองอื่น ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ นั่นมีสาเหตุมาจาก “ช่องว่าง”

มิได้เป็นช่องว่างระหว่าง “ความคิด” ประการเดียว หากแต่ยังเป็นช่องว่างระหว่างพรรคการเมืองเก่ากับพรรค การเมืองใหม่

เป็นเรื่องของวัย เป็นเรื่องของรุ่น

อ่านข่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน