วิเคราะห์การเมือง : ล็อกบีบการเมืองระบบรัฐราชการรวมศูนย์กับอนาคตใหม่
ล็อกบีบการเมืองระบบรัฐราชการรวมศูนย์กับอนาคตใหม่ : คําประกาศจะรุกเข้าไปยังการเมืองระดับท้องถิ่นของพรรคอนาคตใหม่ คือ ระเบิดเวลาลูกใหม่ คือบาทก้าวสำคัญที่จะทะลวงลงลึกไปในแต่ละพื้นที่
สะเทือนอย่างถ้วนหน้า
คำว่า “ถ้วนหน้า” ในที่นี้มิได้หมายเพียง พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา
หากแม้กระทั่งพรรคเพื่อไทยก็ไม่เว้น
สัมผัสได้จากปฏิกิริยาจากบางส่วนในพรรคประชาธิปัตย์ สัมผัสได้จากปฏิกิริยาจากคนเสื้อแดง ซึ่งแนบแน่นอยู่กับพรรคเพื่อไทยและนปช.
ขอให้พิจารณาจากสภาพความเป็นจริงขององค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ในขอบเขต ทั่วประเทศก็จะเห็นว่า
เป็น อบจ.76 แห่ง เทศบาล 2,442 แห่ง อบต. 5,332 แห่ง
ยิ่งหากผนวกเข้ากับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ทั้ง กทม.และเมืองพัทยา ก็จะมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งทั้งหมด 7,852 แห่ง
เรียกว่าลงลึกเข้าไปในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ
ถามว่าพื้นที่ทั้ง 7,852 แห่งเป็นพื้นที่ปลอดการเมือง มิได้อยู่ในความยึดครองของพรรคและกลุ่มการ เมืองใดการเมืองหนึ่ง กระนั้นหรือ
ความเป็นจริงที่รับรู้ไม่ว่าที่เชียงใหม่ ไม่ว่าที่สงขลา ไม่ว่าที่ขอนแก่น ไม่ว่าที่ชลบุรี สุพรรณบุรี ก็จะเป็นเงาสะท้อนการยึดครอง
อันเคยเป็นข้อสังเกตในทางการเมือง
หากมิใช่ครอบครัวเดียว ก็จะเป็นการแบ่งสันปันส่วนภายในตระกูลที่แน่นอน บิดาอาจเป็น ส.ส.ระดับชาติ มารดาคุมอบจ. พี่คนโตคุมอบต.
เพราะนี่คือการจัดสรรผลประโยชน์ในระบบอุปถัมภ์
จากระดับตำบล ระดับอำเภอ ระดับเทศบาล ระดับจังหวัด คือรากฐานที่เป็นความจริงของความสัมพันธ์ระหว่างการเมืองท้องถิ่นกับการเมืองระดับชาติ
มีเสียงเตือนว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่ควรจะผลีผลาม หากแต่ควรจะผูกมิตรกับการเมืองเก่าเอาไว้ก่อน เข้าทำนองแบ่งกันกิน แบ่งกันใช้
แต่ท่วงทำนองนี้ขัดกับพรรคอนาคตใหม่
พรรคอนาคตใหม่เติบโตอย่างพรวดพราดทั้งๆ ที่มิได้เป็นการเมืองแบบซื้อเสียง ทั้งๆ ที่มิได้เป็นการเมืองแบบหัวคะแนน
เป้าหนึ่งที่หนักแน่นจริงจัง คือจัดการกับ “รัฐราชการรวมศูนย์”