เสียง จากส.ส. ภายใน พลังประชารัฐ แกนนำ สำคัญ
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
วิเคราะห์การเมือง – ภายในความดีอกดีใจของ นายนิพันธ์ ศิริธร แห่งกลุ่มด้ามขวานไทย และ นายเอกราช ช่างเหลา แห่งกลุ่มอีสานตอนบน ที่ได้รับการประคบประหงมอย่างดีจากแกนนำพรรค
ไม่ว่าจะเป็น นายอุตตม สาวนายน ไม่ว่าจะเป็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
แต่การออกมายอมรับจาก ส.ส. คนหนึ่งที่อยู่ร่วมในสถานการณ์ว่า เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสพบและหารือกับแกนนำพรรค
เป็นเรื่องน่าตระหนก มากกว่าน่าลิงโลด
เพราะการยอมรับครั้งนี้หากมองจากพื้นฐานที่เขาเป็นสมาชิกพรรค เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งกระทั่งเป็นส.ส. นับเป็นเรื่องเหลือเชื่อยิ่งในทางการเมือง
เป็นธรรมชาติของหัวหน้าพรรคการเมืองที่จะต้องสัมพันธ์กับสมาชิกพรรคและหรือผู้สมัครรับเลือกตั้งอย่างใกล้ชิดและแนบแน่น
เพราะถึงอย่างไรก็ถือได้ว่าเป็นผู้คัดสรร
การที่ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐแสดงความดีใจเมื่อได้พบและหารือกับหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคอย่างชนิดตัวเป็นๆ
ดีใจเพราะว่าเป็นครั้งแรกที่ได้รับโอกาสเช่นนี้
ด้านหนึ่ง จึงสะท้อนให้เห็นความห่างเหินที่ดำรงอยู่ภายในพรรค ขณะเดียวกัน ด้านหนึ่ง จึงสะท้อนให้เห็นลักษณะเจ้าขุนมูลนาย เจ้ายศเจ้าอย่างภายในพรรค
หากมองจุดเริ่มต้นของพรรคพลังประชารัฐมาจากแกนนำซึ่งเป็นผู้นำชุมชนคลองห้วยลัด ถือได้ว่าพรรคพลังประชารัฐเริ่มต้นอย่างติดดิน
ไม่น่าเชื่อว่าเพียง 1 ปีกลับกลายไปเป็นอีกเรื่อง
อาจเป็นเพราะการกุมตำแหน่งสำคัญภายในพรรคโดย 4 ยอดกุมารถือได้ว่าเป็นการนำเข้าโดยส่งตรงมาจากทำเนียบรัฐบาล
มาเพื่อให้เป็น “นอมินี” ของคสช.
แม้จะเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง แต่ความห่างเหินที่ดำรงอยู่ภายในพรรคก็ถ่างกว้างมากยิ่งขึ้น กระทั่งเมื่อ มีโอกาสได้พบเป็นครั้งแรกจึงยินดีเป็นอย่างสูง
สัญญาณอันมาจากปรากฏการณ์ที่มีเสียงร้องเอะอะจาก 13 ส.ส. กลุ่มด้ามขวานไทย และจาก 19 ส.ส.กลุ่มภาคอีสานตอนบนจึงสำคัญ
สำคัญ 1 สะท้อนความคับแค้นของ ส.ส.
สำคัญ 1 สะท้อนให้เห็นโครงสร้างภายในของพรรคพลังประชารัฐที่แม้กระทั่ง ส.ส.ก็ห่างเหินจากฝ่าย แกนนำของพรรค
ทั้งนี้จึงแทบคำนวณไม่ได้ว่าจะห่างเหินจาก “ประชาชน” มากเพียงใด
อ่าน –