ฐานะ การเมือง ของ พรรณิการ์ วานิช ใน อนาคตใหม่
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ฐานะ การเมือง – การโชว์วิสัยทัศน์ในหัวข้อ “ขับเคลื่อนอาเซียนโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ท่ามกลางภูมิทัศน์การเมืองโลกแบบหลายขั้วมหาอำนาจ” โดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
อาจไม่อึกทึกครึกโครมเท่ากับของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เห็นได้จากไม่สามารถเข้ายึดครอง “พื้นที่” ในสื่อหนังสือพิมพ์และสื่อโทรทัศน์มากนัก เมื่อเทียบกับแสงแห่งสปอตไลต์ที่ฉายจับไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
แต่ก็ค่อยๆ รุกคืบบนพื้นที่ “ออนไลน์” อย่างทรงพลัง
ยิ่งอ่านยิ่งสัมผัสได้ถึงความริเริ่มอย่างใหม่ของพรรคอนาคตใหม่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งของทีมงานการเมืองระหว่างประเทศของพรรคอนาคตใหม่
กล่าวสำหรับแฟนานุแฟนของพรรคอนาคตใหม่ จังหวะก้าวที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะแสดง วิสัยทัศน์เพื่อประชันกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มิได้เป็นเรื่องใหม่
ตรงกันข้าม รับรู้กันอยู่แล้วอย่างต่อเนื่อง
เพราะในเมื่อมีการแสดงวิสัยทัศน์ในฐานะแคนดิเดต นายกรัฐมนตรี ทำไมจะไม่แสดงวิสัยทัศน์ในสถานะเดียวกันในวาระแห่งการประชุมสุดยอดอาเซียนเล่า
ที่สำคัญ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ได้เคยแย้มๆ มาบ้างแล้ว
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า น.ส.พรรณิการ์ วานิช นอกจากเป็นโฆษกพรรคแล้ว ภาระหน้าที่หนึ่ง ในฐานะรัฐมนตรีเงาของพรรคอนาคตใหม่ คือ งานการต่างประเทศ
ความสนใจในการเมืองระหว่างประเทศของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ไม่เพียงแต่เลือกเรียนในภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งที่จุฬาฯ และที่อังกฤษ
หากเป้าหมายเบื้องต้นคือ “นักการทูต”
แม้เมื่อมาทำงานสื่อโทรทัศน์ จุดโดดเด่นเป็นอย่างมากของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช คือการทำข่าวในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
กระทั่งสามารถสะสม “ผ้า” จากหลายประเทศมาอยู่ ในมือ
หากติดตามแถลงของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ตั้งแต่ต้นจนจบก็ย่อมจะได้กลิ่นอายอันมาจากความสันทัดจัดเจนของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช อย่างเด่นชัด
ข่าวที่ว่า น.ส.พรรณิการ์ วานิช ถูกลดบทบาทหลังจากประสบมรสุมจากปฏิบัติการ IO อย่างต่อเนื่องจุดเรื่องตั้งแต่เมื่อปี 2553 มาประโคม
อาจฟังดูน่าตื่นเต้น
แต่เมื่อได้ยินการยืนยันจากทั้ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ว่าสถานะของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ไม่เคยเแปรเปลี่ยน
แถลงของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คือพยานหลักฐานสำคัญ