คำมั่น การเมือง เรื่องแก้ไข รัฐธรรมนูญ นโยบาย รัฐบาล
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
คำมั่น การเมือง – เหมือนกับว่าการที่ในร่างนโยบายของรัฐบาลไม่ปรากฏเนื้อหาการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญอย่างเข้มข้นและเร่งด่วนจะเป็นทางออกของเสียงส่วนใหญ่
นั่นก็คือ เสียงของ 19 พรรคร่วมรัฐบาล
นั่นก็คือ แม้พรรคประชาธิปัตย์จะยืนยันอย่างรุนแรงแข็งกร้าวอย่างไร เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญก็ไม่สามารถเป็นเรื่องเร่งด่วนได้
แม้พรรคประชาธิปัตย์จะขอให้กำหนดภายใน 1 ปีก็ตาม
หากมองจากหลักการประชาธิปไตย มีความจำเป็นที่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องยอมรับเพราะเป็นการแพ้เสียงของเสียงส่วนใหญ่ในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน
มองจากประสบการณ์และความจัดเจนของพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องนี้อาจมิได้เป็นเรื่องใหญ่ พรรคประชาธิปัตย์คงสามารถตีฝ่าความเข้าใจผิดไปได้
ประเด็นมิได้อยู่ที่ความเข้าใจผิดกันเองในรัฐบาล
ตรงกันข้าม เดิมพันที่สำคัญและแหลมคมเป็นอย่างมากคือความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชนอันเป็นแฟนานุแฟนของพรรคประชาธิปัตย์
เพราะเรื่องรัฐธรรมนูญเป็น “เงื่อนไข” ของพรรคประชาธิปัตย์
คำถามอยู่ที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของตนเอง หรือว่าจะโยนให้เป็นความผิดพลาดและการไม่ยอมรับฟังของพรรคร่วมรัฐบาล
ไม่ว่าจะมองไปยังพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะมองไปยังพรรคพลังประชารัฐอันเป็นแกนนำสำคัญของพรรคร่วมรัฐบาล
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของคำมั่นสัญญา
เหตุที่พรรคประชาธิปัตย์ยินยอมเข้าร่วมรัฐบาลเพราะพรรคพลังประชารัฐยอมรับเงื่อนไขที่ว่า จะต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญอันเสนอมาจากพรรคประชาธิปัตย์
เท่ากับพรรคพลังประชารัฐมีสัญญาร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อในที่สุดแล้วการที่ในการยกร่างนโยบายของรัฐบาลมิได้ให้ความสนใจในเรื่องของรัฐธรรมนูญก็เท่ากับว่าพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ไม่สนใจในคำมั่นที่เคยให้สัญญา
ในกาลอดีต การให้คำมั่นสัญญาแล้วตระบัดสัตย์อาจเป็นเรื่องธรรมดายิ่งในแวดวงการเมือง นักการเมือง ไม่สนใจ ชาวบ้านก็ไม่สนใจ
แต่สำหรับการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคมกลับสำคัญ
ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ ล้วนทวงถามคำมั่นสัญญาในห้วงก่อนการเลือกตั้งอย่างต่อเนื่อง
ตรงนี้แหละที่ทำให้คำมั่นสัญญาเริ่มทรงความหมายในทางการเมือง