หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์รัฐบาล ประเด็นรัฐธรรมนูญ
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
หนทางพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์รัฐบาลประเด็นรัฐธรรมนูญ : พลันที่ 19 พรรคร่วมรัฐบาลบรรจุเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติม “รัฐธรรมนูญ” เป็นส่วนสำคัญในนโยบาย “เร่งด่วน” แทนที่จะเป็นนโยบาย “ทั่วไป”
ต้องถือว่าเป็นชัยชนะของพรรคประชาธิปัตย์
สมควรที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค และสมควรที่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคจักต้องหน้าบานด้วยความยินดี
แสดงว่าพรรคพลังประชารัฐมีสัจวาจา
เมื่อรับปากพรรคประชาธิปัตย์มาแล้วในคืนวันที่ 4 มิถุนายนว่าเห็นด้วยกับข้อเสนอในเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้คืนคำหรือตระบัดสัตย์
กระนั้น ชัยชนะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้มาก็ยังเป็นชัยชนะซึ่งมิได้หนักแน่นและเป็นจริงเพราะยัง ไม่มีรูปธรรมว่าจะดำเนินการอย่างไรและภายในระยะเวลาใด
เพียงแต่รู้ๆ กันว่า เมื่อ “เร่งด่วน” ก็ต้องภายใน 1 ปี
อาจมิได้ลงมือทำทันทีเหมือนที่พรรคพลังประชารัฐยืนยันในเรื่องการปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำเป็น 425 บาทต่อวัน หรือการทำทันทีเหมือน “มารดาประชารัฐ”
แต่อย่างน้อยเวลา 1 ปีก็เหมือน “กรอบ”
1 เป็นกรอบที่รัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์จะต้องกระทำ ขณะเดียวกัน 1 ก็เป็นกรอบที่สังคมจะได้เฝ้าติดตามและดูผลจากสภาพความเป็นจริง
หากว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะการสะเดาะกุญแจเพื่อทำให้การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรม นูญทำได้ง่ายขึ้นปรากฏผลตามคำมั่นสัญญา
ไม่เพียงแต่พรรคประชาธิปัตย์จะได้ “แต้ม” รัฐบาลก็ได้
อย่างน้อยเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาให้ความเห็นชอบนั่นหมายถึงหลักประกันที่จะได้รับความเห็นชอบจาก 250 ส.ว.เหมือนที่สัมผัสได้ในวันที่ 5 มิถุนายน
เอกภาพจาก 250 ส.ว.ย่อมไม่ต่างจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ปมเงื่อนจึงอยู่ที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความจริงจังและจริงใจเพียงใด พรรคประชาธิปัตย์มีความจริงจังและจริงใจเพียงใดในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
กรอบระยะเวลา 1 ปี จึงสามารถตรวจสอบได้ว่า รัฐบาลอันประกอบส่วนจาก 19 พรรคการเมืองรักษาสัจวาจาได้อย่างแน่วแน่ มั่นคง หรือไม่
ลงมือ “ปฏิบัติ” ตาม “นโยบาย” อย่างไร
จากเดือนกรกฎาคม 2562 ไปยังเดือนกรกฎาคม 2563 ไม่ได้ยาวนานอะไรนักที่จะวัดคุณค่าและความหมายของรัฐบาลและของพรรคประชาธิปัตย์
ในความเป็นชายชาติทหาร ในความเป็นสถาบันการเมือง