สุดยอด คำอ้อน จาก ประยุทธ์ จันทร์โอชา “อย่าทิ้งผม” นะจ๊ะ

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

เหตุปัจจัยอันใดทำให้ นายวิษณุ เครืองาม ต้องออกมาติด “เบรก” ให้กับกระแสข่าว “อย่าทิ้งผม อย่าให้ผมพูดคนเดียว” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ทั้งๆ ที่มีการปล่อยออกมาอย่างเป็นระบบ

หากมิใช่เพราะ “คนใน” ในที่ประชุมครม.ตั้งใจปล่อยออกมา เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงที่สื่อจะได้ยินและก็เป็นไปตามคาด

นั่นก็คือ กลายเป็น “พาดหัว” อย่างครึกโครม

เป้าหมายก็คือ เรียกร้องความเห็นอกเห็นใจอย่างทันควัน ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวไม่ว่าจะจาก ส.ว. ไม่ว่าจะจาก ส.ส.ขานรับอย่างอบอุ่น

ระหว่างท่าทีของการปล่อยวลี “อย่าทิ้งผม อย่าให้ผมพูดคนเดียว” ในเบื้องต้น กับท่าทีของ นายวิษณุ เครืองาม มากด้วยความแตกต่าง

ความแตกต่างมิได้อยู่ที่ประโยคเริ่ม

“ไม่ได้สะท้อนอะไร เพราะปิดประชุมกันเรียบร้อย เดินออกกันไปครึ่งหนึ่งแล้วนายกรัฐมนตรีถึงเปรยขึ้นมา เล่นๆ

อาจพูดเล่นบ้าง พูดจริงบ้าง ไม่ถึงกับเป็นมติครม.”

หากที่สำคัญเป็นอย่างมากอยู่ที่ประโยคปิด ที่ว่า “จะสื่ออะไรผมไม่ทราบและไม่ได้ยินประโยคนี้” จะยิ่ง ทำให้ “อย่าทิ้งผม” มีคุณค่าและความหมายมากขึ้น

หากนำเอาท่วงทำนองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในห้วงแห่งการเป็นนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลเก่ามาเทียบกับการปล่อยวลี “อย่าทิ้งผม อย่าให้ผมพูดคนเดียว”

ก็จะมองเห็นลักษณะการสืบทอดและความต่อเนื่อง

1 เป็นการสืบทอดจากท่วงทำนองอ้อนในแบบของ สายัณห์ สัญญา “ไก่จ๋า” 1 เป็นการสืบทอดท่วงทำนองอ้อนในแบบของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ไม่ว่าอยู่เบื้องหน้าประชาชน ไม่ว่าอยู่เบื้องหน้านักข่าว

เป็นลีลาในการสร้างความน่ารัก น่าเอ็นดู ในแบบรักสายัณห์ให้น้อย แต่รักให้นาน เป็นความเคยชินกระทั่งกลายเป็นกระสวนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ต้องยอมรับว่าการประชุมรัฐสภาเพื่อแถลงนโยบายในวันที่ 25 กรกฎาคม ถือเป็นของใหม่หากมองจากด้าน ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

จึงต้องการความอบอุ่น ต้องการความเห็นใจ

แม้จะมี 500 เสียงที่เคยขานชื่อให้การยอมรับเมื่อ วันที่ 5 มิถุนายน จาก 249 ส.ว.ประสานเข้ากับ 251 ส.ส. แต่ก็ยังต้องการอีก

อย่าทิ้งผม อย่าให้ผมพูดคนเดียว นะจ๊ะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน