เส้นทาง การเมือง ของ ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จงทำดี แต่อย่าเด่นคอลัมน์

เส้นทาง การเมือง ของ ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จงทำดี แต่อย่าเด่น

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

เส้นทาง การเมือง ของ ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จงทำดี แต่อย่าเด่นคอลัมน์ : วิเคราะห์การเมือง – ชะตากรรมของ ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ บนเส้นทางการเมืองสายโหด เป็นเรื่องที่สามารถสัมผัสและทำความเข้าใจได้

เหมือนกรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

เหมือนกรณีของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และเหมือนกรณีของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ซึ่งถูกต้อนรับน้องใหม่มาก่อนหน้านี้แล้ว

นี่คือด่านหินด่านหนึ่งสำหรับ “น้องใหม่”

ด้านหนึ่ง ประสบความสำเร็จ ได้รับเสียงชมเชย โห่ร้อง ขณะเดียวกัน ด้านหนึ่ง ก็มีคนเขม่นและสาดทั้งน้ำร้อน น้ำเย็นเข้าใส่จากทุกสารทิศ

ถามว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ตลอดจน นาย ปิยบุตร แสงกนกกุล และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ประสบความสำเร็จในทางการเมืองหรือไม่

คะแนน 6.3 ล้านที่ให้ “อนาคตใหม่” คือ คำตอบ

ทั้งๆ ที่พรรคเพิ่งเกิด มีอายุเพียง 1 ปีไม่บริบูรณ์ด้วยซ้ำ ไม่มีอดีตส.ส. ไม่มีหัวคะแนน แต่ปรากฏว่าได้รับเลือกมามากถึง 81 คน

เหนือกว่าพรรคประชาธิปัตย์ เหนือกว่าภูมิใจไทย

ความสำเร็จนี้แหละที่ก่อให้เกิดอาการกระบอกตาร้อนผ่าว โดยเฉพาะจากคนหน้าเก่า หรือแม้กระทั่งจากคนหน้าใหม่ในแวดวงการเมือง

หากหยั่งลงไปใน “อาการ” ที่แสดงออก ไม่ว่าโดยการออกมาวิพากษ์โจมตีโดยตรง ไม่ว่าโดยการแสดงออกผ่านโซเชี่ยลมีเดีย

ถามว่ามีชาวบ้านจริงๆ กระบอกตาร้อนผ่าวหรือไม่

ตอบได้เลยว่า ไม่มี นั่นก็เห็นได้จาก ส.ส.หญิงรายหนึ่งที่ชอบเกาะและโหนกระแสคนดัง นั่นก็เห็นได้จากบรรดาลุงๆ ป้าๆ ที่ทนไม่ได้เมื่อเห็นพรรคอนาคตใหม่กำชัยชนะ

จงทำดี แต่อย่าเด่น จะเป็นภัย

กรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นเช่นนี้ กรณีของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นเช่นนี้ กรณีของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช เป็นเช่นนี้ กรณีของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็เป็นเช่นนี้

น่าสังเกตว่าบรรดา “ดาวรุ่งพุ่งแรง” ในทางการเมือง คนแล้วคนเล่าล้วนพาเหรดออกมาจากภายในพรรคอนาคตใหม่ทั้งสิ้น

นี่เป็นเรื่องธรรมดาอย่างปกติในทางการเมือง

เพราะพรรคอนาคตใหม่ประกอบส่วนจากคนรุ่นใหม่ เพราะนักการเมืองที่เป็นส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ล้วนเป็นละอ่อนในทางการเมือง

ในความสำเร็จก็ย่อมต้องถูกแรงต้าน แรงสกัดเป็นอุปสรรคตลอด 2 รายทาง

อ่านข่าว