บทเรียน การเมือง ประชาธิปัตย์ ไทยรักไทย มายัง อนาคตใหม่

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

บทเรียน การเมือง ประชาธิปัตย์ ไทยรักไทย มายัง อนาคตใหม่คอลัมน์ : วิเคราะห์การเมือง – เหมือนกับการโยนเฟกนิวส์เข้าใส่พรรคอนาคตใหม่จะเป็น “หมัดเด็ด” ไม่ว่าจะมาจากนักการทหาร ไม่ว่าจะมาจากนักการเมือง

เพียงแค่นี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ไปไม่เป็น

แต่คำถามก็คือ นี่เป็นครั้งแรกหรือไม่ที่คนอย่าง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คนอย่าง นายปิยบุตร แสงกนกกุล หรือคนอย่าง น.ส.พรรณิการ์ วานิช ถูกสาดโคลน

ไม่ใช่ครั้งแรก หากแต่เป็นครั้งที่เท่าไรก็ไม่รู้

พวกเขาถูกเล่นงานตั้งแต่แรกที่ประกาศตัวจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ และรุนแรงหนักหน่วงราวกับมรสุมรุมกระหน่ำช่วงก่อนวันที่ 24 มีนาคม แล้วผลเป็นอย่างไร

พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ คงต้องยอมรับว่า มีคนออกจากบ้านไปลงคะแนนเลือกพรรคอนาคตใหม่มากถึง 6.2 ล้านคน ผลก็คือได้ ส.ส.มา 81 คน

หากไม่ถูกกายกรรมทางกฎหมายก็จะได้ถึง 88

ถามว่าคนเหล่านี้ถูก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หลอกหรือ ถูก นายปิยบุตร แสงกนกกุล หลอกหรือ ถูกเสียงอ้อนจาก น.ส.พรรณิการ์ วานิช หลอกหรือ

เป็นไปได้อย่างไรที่จะถูกหลอกถึง 6 ล้านกว่า

ก็เหมือนกับความสำเร็จของพรรคไทยรักไทย ความสำเร็จของพรรคพลังประชาชน และความสำเร็จของ พรรคเพื่อไทยนั่นแหละ ที่ได้ชัยชนะเพราะหลอกลวงอย่างนั้นหรือ

ถามว่าพรรคประชาธิปัตย์มีบทสรุปอย่างไรต่อความพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องให้กับพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน กระทั่งมาถึงพรรคเพื่อไทย

ตอบว่า เราแพ้เพราะเงิน

ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงพรรคไทยรักไทยชนะเพราะ “นโยบาย” เยี่ยมกว่า และได้ชัยชนะอย่างต่อเนื่องเพราะเมื่อเป็นรัฐบาลแล้วก็ทำเหมือนอย่างที่พูด

มิใช่ “ดีแต่พูด” เหมือนกับบางพรรคการเมือง

นวัตกรรมของพรรคไทยรักไทยคือการนำเสนอผ่าน “นโยบาย” ฉันใด นวัตกรรมของพรรคอนาคตใหม่คือการนำเสนอผ่านนโยบายและ “ความคิด” อันแหลมคม ฉันนั้น

ไม่ว่าพรรคไทยรักไทย ไม่ว่าพรรคอนาคตใหม่ เปิดตัวมาพร้อมกับนโยบาย เปิดตัวมาพร้อมกับการนำเอานวัตกรรมใหม่ในทางการเมืองเข้ามา

หากจะสู้กับพรรคอนาคตใหม่ก็ต้องมาสู้กันด้วย “ความคิด”

พรรคการเมืองใดก็ตาม นักการเมืองใดก็ตาม บุคคลใดก็ตามที่คิดจะสู้กับพรรคอนาคตใหม่แล้ว เริ่มต้นจาก “เฟกนิวส์” พรรคการเมืองนั้นก็ประกันได้เลยว่าแพ้แน่นอน

แพ้เหมือนพรรคประชาธิปัตย์ แพ้เหมือนพรรคภูมิใจไทย

อ่านข่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน