โรคใหม่ การเมือง ของ ประยุทธ์ จันทร์โอชา โรคสภา โฟเบีย
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ไม่ว่าแนวทางปฏิบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ยอมไปสภาเพื่อตอบกระทู้ถามสด ไม่ว่าแนวทางปฏิบัติผ่านภารกิจติดพัน ไม่อาจกำหนดวันประชุมในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปได้
มีผลดีให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเดียวเท่านั้น คือไม่ต้องไปสภา
แต่เมื่อคำนึงถึงผลเสียที่ตามมาเป็นลำดับก็คือ ภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเรื่องหนีสภายิ่งฝังลึกในตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
กระทั่งอาจเรียกได้ว่าเป็น “สภาโฟเบีย” อย่างพิกัด
เมื่อบังเกิดความหวาดกลัวในลักษณะขนพองสยองเกล้าเสียแล้ว ก็เหมือนกับเด็กที่หนีโรงเรียน หนีครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกิดภาพหลอน
หากมองจากพื้นฐานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นทหารระดับสูงถึง ผบ.ทบ. หากมองจากพื้นฐานการได้มาซึ่งอำนาจโดยการรัฐประหาร
จุดเด่นเป็นอย่างมากคือ ความแข็งแกร่ง มั่นคง
ระยะนับแต่เดือนพฤษภาคม 2557 กระทั่งถึงการเลือกตั้งในเดือนมีนาคม 2562 ต้องยอมรับว่าอำนาจในมือ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มั่นคง แข็งแกร่ง
ไม่ว่าเสื้อแดง ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ล้วนหัวหด
กระนั้น เมื่อปะเข้ากับสภาพทางการเมืองหลังเดือนมีนาคม 2562 ภาพอีกภาพหนึ่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เริ่มปรากฏและเด่นชัดยิ่งขึ้นว่าหวาดกลัวต่อสภา
นักวิชาการบางท่านอาจสรุปอย่างเข้าข้าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าที่ไม่ยอมไปสภามิใช่เพราะกลัว หากแต่เพราะรำคาญและเกรงจะเสียรังวัดมากกว่า
เพราะภาพระหว่างวันที่ 25-27 กรกฎาคมนั้นชัด
ชัดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตื่นและเกะกะเก้งก้างอย่างไรต่อการปรับตัวให้ประสานเข้ากับระบบรัฐสภา จนแทบจะวางมือวางไม้ไม่ถูก
และที่สุดก็เก็บอารมณ์ เก็บอาการไม่อยู่
ตรงนั้นแหละได้กลายเป็นฝันร้ายและสร้างความสยดสยองเป็นอย่างสูงให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จนต้องหนีแล้วหนีอีก
ไม่มีใครตอบได้ว่าหากประธานสภาผู้แทนราษฎรกำหนดวันประชุมเพื่อดำเนินญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไปสภาหรือไม่
นายวิษณุ เครืองาม ตอบไม่ถูกนั้นมิได้เป็นเรื่องแปลก
แต่ที่แปลกอย่างที่สุดคือตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอง จนถึงวันนี้ก็ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าจะไปหรือไม่ไป
ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยตรง
