สภาพ บานปลาย ถวายสัตย์ ปฏิญาณตน ของ “ประยุทธ์”

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

ถวายสัตย์ ปฏิญาณตน – แม้ข้อสังเกตจาก นายชวน หลีกภัย เมื่อรับฟังคำท้วงติงจาก นายปิยบุตร แสงกนกกุล กรณีตั้งข้อ สังเกตในเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า

เป็นเรื่อง “ร้ายแรง”

ในวันที่ 25 กรกฎาคม จะชวนให้เข้าใจได้ 2 ด้าน กล่าวคือ 1 ด้านที่หากจริงตามข้อสังเกต และ 1 อาจ ไม่จริงตามข้อสังเกตเพราะเป็นความคลาดเคลื่อน ของคลิปที่มีการเผยแพร่

แต่ระยะหลังต่อมาก็มีความแจ่มชัด

แจ่มชัดว่าข้อสังเกตอันนำมาสู่การท้วงติง ของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล มิได้มาจากการแต่งเติม หรือความคลาดเคลื่อนของคลิป หากแต่เป็นความจริงอันจริงแท้

ความจริงอันจริงแท้นี้นอกจากโดยความจริงที่ ว่า รายละเอียดอันปรากฏผ่าน “ข่าวในราชสำนัก” อันเป็นเรื่องของทางการ ไม่ได้มีใครประสงค์ร้ายไปกลั่นแกล้ง

นั่นก็คือ ความผิดพลาดมาจากตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอง

ตามปกติความผิดพลาดเช่นนี้สามารถแก้ไขได้หากยอมรับต่อสภาพความเป็นจริง นั่นก็คือ เมื่อที่ทำไปแล้วผิดพลาดก็ทำใหม่เสียให้ถูกต้อง

เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญ

แต่ที่กลายเป็นปัญหาบานปลายจากการท้วงติงเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ก็ไม่จบเพราะว่าเจ้าตัวคนทำผิดคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ยอมแก้ไขผิดให้ถูก

การณ์กลับกลายเป็นว่าบรรดาบริษัทบริวารที่ แวดล้อมอยู่โดยรอบกาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าในรัฐบาล ไม่ว่าในพรรคพลังประชารัฐก็ไม่ยอมรับความจริง

เห็นได้จากการหลบเลี่ยงเหมือนกับเป็นการปัดปัญหา

เห็นได้จากเพียงแต่ไม่ยอมแก้ไขสิ่งที่ผิด ให้ถูก ตรงกันข้าม กลับเสนอแนะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ถลำลึกลงไปในความผิดพลาดหนักเข้าไปอีก

และที่สำคัญก็คือการโบ้ยความผิดให้ “ฝ่ายค้าน”

ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้นเองที่เป็นตัวปัญหา เพราะเป็นคนทำความผิดพลาดในการกล่าวนำด้วยตนเอง มิใช่ฝ่ายค้านแต่อย่างใด

พัฒนาการของเรื่องราวที่เริ่มต้นจากการ หารือเมื่อ วันที่ 25 กรกฎาคม ก็กลายเป็นการตั้งกระทู้ ถามสดในต้นเดือนสิงหาคม และกลายเป็นการยื่นญัตติ ขอเปิดอภิปรายทั่วไป

เรื่องซึ่งควรจะจบ จึงไม่จบ

ทั้งไม่เพียงแต่ส่อแสดงว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 อย่างเดียว หากแต่ยังมีผลขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 163 อีกด้วย

เรื่อง “ถวายสัตย์” จึงโก โซ บิ๊ก อย่างเหลือเชื่อ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน