เบาะแส ร่องรอยการเมืองเก่า ในกาลอดีตเพื่อไทย “พลัส”
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
เบาะแส ร่องรอยการเมืองเก่า : ถามว่าเหตุใดกรณีอื้อฉาวจาก เดอะ ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮรัลด์ จึงตกอยู่ในความรับผิดชอบของพรรคเสรีรวมไทยอย่างเต็มพิกัด
ทั้งๆ ที่น่าจะเป็นของพรรคเพื่อไทย
หากใครติดตามการตอบกระทู้ถามสดจากพรรคเสรีรวมไทยโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็จะต้องเข้าใจ
เข้าใจว่าเหตุใดพรรคเพื่อไทยจึงต้องสงบเสงี่ยม
สงบเสงี่ยมเหมือนเมื่อประสบเข้ากับกรณี นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม จากสุรินทร์ เหมือนเมื่อประสบเข้ากับกรณี นายนวัธ เตาะเจริญสุข จากขอนแก่น
ความเป็นจริงจากกรณีของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อนจะเข้าไปมีบทบาทเป็นเส้นเลือดใหญ่อยู่ในรัฐบาลอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ
เคยเป็นผู้สมัครบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยมาก่อน
หากว่าการเลือกตั้งครั้งนั้นไม่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโมฆะมีความเป็นไปได้ว่าจะได้เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557 มาแล้ว
บทบาทเป็นอย่างไรภายในพรรคเพื่อไทยย่อมรู้ดี
ตรงนี้แหละที่ทำให้พรรคเพื่อไทยตกอยู่ใน สภาพน้ำท่วมปาก อยากพูดแต่ก็พูดออกมาได้อย่าง ไม่เต็มปากเต็มคำ เพราะเมื่อลูบไปบนใบหน้าก็ปะเข้ากับจมูก
สภาพการณ์ทางการเมืองเหมือนกับเคราะห์ซ้ำ กรรมซัด เพราะนอกจากกรณีของ เดอะ ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮรัลด์ แล้ว ก่อนหน้านั้นก็มีเหตุการณ์ที่สุรินทร์
เมื่อ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ไปต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ไม่เพียงแต่จะต้อนรับเยี่ยงเจ้าของบ้าน หากแต่ยังไปเจื้อยแจ้วจำนรรจาไม่เห็นด้วยกับการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ของฝ่ายค้านอันมีพรรคเพื่อไทยเป็นผู้นำ
เรียกว่าสวนกับมติและทิศทางของพรรคฝ่ายค้าน
เท่านั้นไม่พอ ส.ส.ของพรรค นายนวัธ เตาะเจริญสุข จากขอนแก่นยังก่อปฏิบัติการดุเดือดต่อ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร จากมหาสารคาม ต่อหน้าต่อตาหัวหน้าพรรคอีก
หากถือว่ากรณี เดอะ ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮรัลด์ เป็นเรื่องของอดีต เป็นเรื่องของกรรมเก่ากรณีที่สุรินทร์ กรณีที่ห้องผู้นำฝ่ายค้านก็เป็นเรื่องของอดีต เป็นเรื่องของกรรมเก่าเช่นเดียวกัน
เพียงแต่เป็นกรรมเก่าจาก ไทยรักไทย พลังประชาชน
เพียงแต่เป็นร่องรอยของการเมืองแบบเก่า องค์ประกอบของนักการเมืองในลีลาและท่วงทำนองแบบดั้งเดิม
กระทั่งแทบไม่มีสีสัน “เพื่อไทย พลัส” แม้แต่ นิดเดียว