คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
เลือกตั้งนครปฐมวิถี ไพรัฐโชติ จันทรขจรกับอนาคตใหม่
เลือกตั้งนครปฐมวิถี ไพรัฐโชติ จันทรขจรกับอนาคตใหม่ : การเลือกตั้งซ่อมที่เขต 5 นครปฐม มีความสำคัญ พอๆ กับการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ตาม
เป็นการวัดดวงพรรคอนาคตใหม่
เพราะ นางจุมพิตา จันทรขจร ที่ลาออกไปเนื่องจากปัญหาสุขภาพได้คะแนนทิ้งห่าง ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา
ไม่ใช่ร้อย ไม่ใช่พันหากเป็น “หมื่น”
การเลือกตั้งซ่อมจึงเท่ากับเป็นการตรวจสอบและพิสูจน์ทราบว่าคะแนนและความนิยมที่พรรคอนาคตใหม่ได้มาเป็นสภาพวูบวาบหรือว่าเป็นเรื่องจริง
เคยมีบุคคลที่เป็นนักรัฐศาสตร์ระดับดุษฎีบัณฑิตแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเคยฟันธงภายหลังการเลือกตั้งว่า กระแสของพรรคอนาคตใหม่มาเร็วไปเร็ว
เชื่อว่าหลังการเลือกตั้งกระแสก็จบ
แต่เมื่อมีการเลือกตั้งซ่อมที่เชียงใหม่ปรากฏว่าคนของพรรคอนาคตใหม่ชนะอย่างชนิดถล่มทลายได้คะแนนมากสุดเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับทั่วประเทศ
กระนั้นก็มีเสียงชี้ว่าเป็นการเทคะแนนให้จากพรรคเพื่อไทย
เช่นเดียวกับคะแนนที่ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ได้มาในนครปฐมเมื่อเดือนมีนาคมก็มีความเชื่อว่า หากไม่มีคะแนนของพรรคไทยรักษาชาติคงไม่ได้มากมายขนาดนี้
ความซับซ้อนในพื้นที่นครปฐมก็คือ พื้นที่นี้เคยถูกยึดครองโดยตระกูล “สะสมทรัพย์” มาอย่างต่อเนื่องยาวนานไม่ว่าจะย้ายไปอยู่พรรคใดก็ตาม
แต่คราวนี้เฉพาะเขตนี้ “สะสมทรัพย์” มาเป็น อันดับ 4
ไม่เพียงแต่ตกเป็นรองผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ หากแต่ยังตกเป็นรองผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์
ทั้งๆ ที่ลงในนามพรรคชาติไทยพัฒนา
คำประกาศจากตระกูล “สะสมทรัพย์” ที่จะทวงคืนตำแหน่งแชมป์จากพรรคอนาคตใหม่จึงทรงความหมายเป็นอย่างสูง
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนจาก นางจุมพิตา จันทรขจร มาเป็น นายไพรัฐโชติ จันทรขจร ก็น่าสนใจเป็นอย่างสูงในทางการเมือง
ไม่เพียงแต่จะเป็น “สามี” ของ นางจุมพิตา จันทรขจร
หากที่สำคัญเป็นอย่างมาก นายไพรัฐโชติ จันทรขจร มิได้หน้าใหม่หรือละอ่อนในทางการเมือง ตรงกันข้าม ทำงานการเมืองมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน กระทั่งพรรคเพื่อไทย
ยิ่งกว่านั้นยังเป็นกำลังสำคัญให้กับ นางจุมพิตา จันทรขจร ด้วย