จาก งบประมาณ ถึงการเลือกตั้ง นครปฐม ฝนตก บ้านน้อง
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง – ระหว่างวันที่ 17-18 ตุลาคม จะมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 และอีก 5 วันต่อมาจะมีการเลือกตั้งซ่อมที่เขต 5 นครปฐม
เป็นคนละเรื่อง แต่มีความสัมพันธ์กัน
สัมพันธ์เพราะว่าในการพิจารณางบประมาณพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งอยู่ในรัฐบาล
ขณะที่พรรคอนาคตใหม่อยู่ในฐานะเป็นฝ่ายค้าน
บทบาทของพรรคประชาธิปัตย์ บทบาทของพรรคชาติไทยพัฒนา บทบาทของพรรคอนาคตใหม่ย่อมส่งผลสะเทือนไปถึงการตัดสินใจของชาวสามพรานในวันที่ 23 ตุลาคม
หากดูจากยุทธศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทยพัฒนาที่เน้นบทบาทของส.ส.เฉพาะส่วนเฉพาะพื้นที่เหมือนกรณีงบประมาณจะไม่สัมพันธ์
คำถามก็คือ เป็นเช่นนั้นจริงละหรือ
ในเมื่อเป้าหมายใหญ่คือรัฐบาล ในเมื่อเป้าหมายใหญ่คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้ารัฐบาล
นี่ย่อมสะเทือนถึงพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา
คำขวัญที่ว่า “ทนลุงไม่ไหว เลือก อนาคตใหม่” จึงถือว่าท้าทายต่ออารมณ์และความรู้สึกของชาวบ้านอย่างลึกซึ้งโดยเฉพาะจากรายละเอียดของ “งบประมาณ”
ยิ่งเข้าใกล้วันที่ 23 ตุลาคมมากเพียงใด ยิ่งประจักษ์ถึงความพยายามของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา ในการหดและลดเป้าในทางการเมือง
จากเลือกตั้งส.ส.ให้เป็นเพียงเลือกตั้งส.จ.
ทั้งๆ ที่ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ เคยเป็นรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นส่วนหนึ่งอยู่ในรัฐบาล
ถามว่าเหตุใดจึงถ่อมตัวและลดระดับอย่างนั้น
คำตอบเด่นชัดอย่างยิ่งว่า คะแนนและความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เหลืออยู่น้อยกระทั่งไม่สามารถเป็นจุดขายให้กับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนาได้
ทั้งหมดที่ถกแถลงกันมายาวยืดยังเป็นเสมอเพียงการวิเคราะห์ การคาดหมาย ยังมิได้เป็นความจริงในลักษณะอันเป็น “ความจริงแท้”
เพราะความจริงแท้อยู่ที่วันที่ 23 ตุลาคม
สถานการณ์จากวันนี้จนถึงวันที่ 23 ตุลาคมจึงเท่ากับเป็นการทดสอบความถูกต้องแม่นยำของยุทธวิธีและกระบวนการบรรลุยุทธศาสตร์ของแต่ละพรรคการเมือง
ใครคมเข้มและแม่นยำ