การเคลื่อนไหวขององค์กรส่งเสริมและปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา (อสคพ.) ต่อกรณีการสร้าง “พระนาคปรก” รุ่นหนึ่งในปฐพี โดยการแจ้งความร้องทุกข์ ต่อกองปราบปราม
มี “เป้าหมาย” อย่างแน่นอน
คล้ายเป้าหมายนั้นจะพุ่งปลายหอกเข้าใส่ พระสุวิทย์ ธีรธัมโม แห่งวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม อย่างเป็นด้านหลัก
ในฐานะที่ประกอบพิธีกรรม ปลุกเสก “พระนาคปรก”
และไม่ว่าเบื้องหลังขององค์กรส่งเสริมและปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา (อสคพ.) จะเป็นอย่างไร เป็นฝ่ายของวัดพระธรรมกาย หรือเป็นฝ่ายของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองบางกลุ่มอันอยู่ตรงกันข้าม กับเจ้าสำนักวัด อ้อน้อย
แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีแรงบันดาลใจจาก “กรณีวัดพระธรรมกาย”
จุดเริ่มต้นของการแจ้งความร้องทุกข์อาจมาจากกรณีการปลุกเสกสร้าง “พระนาคปรก” โดยมุ่งประเด็นไปยังความสงสัยว่าได้รับ “พระบรมราชานุญาต” จากสำนักพระราชวังหรือไม่
เพราะปรากฏ “พระปรมาภิไธย” อยู่กับ “พระนาคปรก”
กรณีอย่างเดียวกันนี้เคยมีคดีความครึกโครมเป็นอย่างมากจากการปลุกเสกสร้างพระเครื่อง “สมเด็จเหนือหัว”
แล้วปรากฏว่าไม่ได้รับ “พระบรมราชานุญาต”
ผลก็คือเสี่ยเซียนพระชื่อดังต้องคำพิพากษาติดคุก 5 ปี
กรณีของ “พระนาคปรก” จึงมิได้เป็นเรื่องใหม่

 

กระนั้น เป้าหมาย 1 นอกเหนือจากการแจ้งความร้องทุกข์ที่กองปราบปรามก็คือ การส่งเรื่องไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)
นี่จะเป็นงานของ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ โดยตรง
เพราะว่าในห้วงแห่งการจัดการกับ พระไชยบูลย์ ธัมมชโย โดยดีเอสไอและตำรวจ มีความเอาการเอางานอย่างยิ่ง
ถึงกับเปลี่ยนตัว ผอ.พศ.มาเป็น พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์
และ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ก็เอาการเอางานในการจะจัดการกับ พระไชยบูลย์ ธัมมชโย ในเรื่องความผิดทางธรรมวินัยอย่างยิ่ง
เมื่อเป็นกรณี “พระนาคปรก” ทางพศ.จะแสดงท่าทีอย่างไร

 
ปฏิบัติการจากองค์กรส่งเสริมและปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา (อสคพ.) จึงเป็นปฏิบัติการ 2 เป้า
เป้า 1 อาจเป็นผู้ปลุกสร้าง “พระนาคปรก” แห่งวัดอ้อน้อย แต่เป้า 1 และ 2 เป็นเป้าข้างเคียงจากกองปราบปรามไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
เป้าหลังอาจเป็นเป้าหลักมากกว่าเป้าแรกด้วยซ้ำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน