แรงดาล การเมือง ของ สถาบัน ทิศทางไทย คือ อนาคตใหม่
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
วิเคราะห์การเมือง – หากดูการเคลื่อนไหวของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม เมื่อออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไปตั้งหลักที่พรรครวมพลังประชาชาติไทย มิใช่เพราะรังเกียจเดียดฉันท์พรรคประชาธิปัตย์
หากเป้าหมายแท้จริงคือ “อนาคตใหม่”
การนำเสนอในเชิงอธิบายถึงความจำเป็นต้องต่อสู้กับ “ลัทธิชังชาติ” แต่ละข้อก็เด่นชัดมาจากอารมณ์ค้างในทางความคิดที่มีพรรคอนาคตใหม่มิใช่พรรคประชาธิปัตย์
อาจเพราะมีอันต้อง “สอบตก” เพราะฤทธิ์ “อนาคตใหม่”
ขณะเดียวกัน ก็มีความมั่นใจว่าการเคลื่อนไหวในพรรครวมพลังประชาชาติไทยกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ถูกโฉลกต้องจังหวะก้าวมากกว่าในพรรคประชาธิปัตย์
ไม่เพียงแต่กรณีของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตพรรคประชาธิปัตย์และสมาชิกใหม่หมาดพรรครวมพลังประชาชาติไทยเท่านั้นหรอก
หากแต่ดูจากลีลาการเกิดขึ้นของ “สถาบันทิศทางไทย”
ดูจากการเคลื่อนไหวของ นายสุวินัย ภรณวลัย ซึ่งเป็นประธานทางด้านวิชาการและมีบทบาทเป็นอย่างสูงในการจัดฝึกอบรมเพื่อสร้าง “อภิมนุษย์” ให้บังเกิด
ก็จะสัมผัสได้ในความรู้สึกแบบ “หมอวรงค์”
นั่นก็คือ ได้รับความบันดาลใจมาจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้รับความบันดาลใจมาจาก นายปิยบุตร แสงกนกกุล และเป็นความสำเร็จของพรรคอนาคตใหม่ช่วยจุดประกาย
อย่าได้แปลกใจหากว่าในก้าวต่อไปไม่เพียงแต่สถาบันทิศทางไทย หากแม้กระทั่งพรรครวมพลังประชาชาติไทยก็จะเป็นที่รวมของบรรดาลุงๆ ป้าๆ ในทางการเมือง
ซึ่งหงุดหงิดไม่พอใจ “อนาคตใหม่”
เป็นชมรมของคนที่ยอมรับความโดดเด่นของ นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ได้ เป็นศูนย์รวมของคนที่เกิดอาการกระบอกตาร้อนผ่าวต่อความสำเร็จของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล
ยิ่งหงุดหงิดยิ่งจำเป็นต้องเคลื่อนไหว ออกโรง
การดำรงอยู่ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงสร้างความคึกคักให้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม บทบาทอันโดดเด่น ของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล จึงชุบวิญญาณ นายสุวินัย ภรณวลัย ให้โลดแล่น
การขยับจากพรรคประชาธิปัตย์ไปอยู่พรรครวมพลังประชาชาติไทยของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม จึงเท่ากับเป็นการส่งสัญญาณในทางการเมือง
เหมือนๆ กับการเกิดของ “สถาบันทิศทางไทย”
ภารกิจเฉพาะหน้าไม่มีอะไรสลับซับซ้อน นั่นก็คือ ดับเครื่องชนกับพรรคอนาคตใหม่ สกัดขัดขวางในทุกกระบวนท่าต่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
หงุดหงิด ทนไม่ได้ จนต้องสำแดง “กัมมันตะ” ออกมา
อ่าน –