บทเรียนสภาล่มศึกษา ลีลา “ประชาธิปัตย์”ผ่าน แต่ละเงื่อนไข
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
บทเรียนสภาล่มศึกษา ลีลา “ประชาธิปัตย์”ผ่าน แต่ละเงื่อนไข : กรณี “สภาล่ม” ครั้งแล้วครั้งเล่า ปัจจัยหลักอาจมาจากญัตติด่วนจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาทบทวน ผลกระทบประกาศและคำสั่งคสช. และคำสั่งหัวหน้าคสช. ตามมาตรา 44
อาจใช่ อาจเป็นเช่นนั้น
แต่ที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาดว่าญัตติด่วนอันเสนอโดย นายปิยบุตร แสงกนกกุล และคณะแห่งพรรคอนาคตใหม่นี้มี “เรือพ่วง” ติดมาด้วย
เป็นเรือพ่วงจากญัตติด่วนของ นายสาทิตย์ วงศ์ หนองเตย และคณะแห่งพรรคประชาธิปัตย์
รูปธรรมอันเด่นชัดภายใน 234 ที่กำชัยเหนือ 231 เสียงเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน นั้นมี 6 เสียงจากพรรคประชาธิปัตย์รวมอยู่ด้วยอย่างทรงพลัง
มีความหงุดหงิดปรากฏจากน้ำเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเด่นชัด มีอาการน้ำท่วมปากดำรงอยู่ภายในคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเด่นชัด
สัมผัสได้จากข้อเรียกร้องในเรื่อง “เอกภาพ”
เป็นเอกภาพที่ต้องการให้ 6 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ถอยออกจากญัตติด่วนที่ตนเสนอและพ่วงมากับญัตติของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และคณะแห่งพรรคอนาคตใหม่
แต่ดูเหมือนจะไม่ประสบผลสำเร็จ
ฟังจากน้ำเสียงของ นายเทพไท เสนพงศ์ 1 ใน 6 ของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขายืนยันว่าเขายกมือให้กับญัตติอันยื่นไปโดยพรรคประชาธิปัตย์ เพียงแต่พ้องกับญัตติอันยื่นไปโดยพรรคอนาคตใหม่เท่านั้น
สายตาของพรรคพลังประชารัฐที่มองไปยังพรรคประชาธิปัตย์จึงมากด้วยความแคลงคลาง กังขา เพราะยากเป็นอย่างยิ่งที่จะลงโทษ 6 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้
เพราะญัตติของ 6 ส.สเป็นไปตาม “มติพรรค”
กระนั้น ก็ต้องยอมรับด้วยว่าก่อนหน้านี้พรรคประชาธิปัตย์ก็มีข้อสังเกต ไม่ว่าจะในประเด็นตำแหน่งประธาน กมธ.วิสามัญเรื่องรัฐธรรมนูญ
ไม่ว่าจะเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ขาดการหารืออย่างรอบด้าน
พรรคประชาธิปัตย์อาจยอมถอยในเรื่องตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ พรรคประชาธิปัตย์อาจเสนอประเด็นกระตุ้นเศรษฐกิจเฉพาะในครม. แต่นั่นมิได้หมายความว่าพรรคประชาธิปัตย์จะแฮปปี้
ความละเอียดอ่อนอย่างยิ่งของพรรคประชาธิปัตย์ก็คือ การตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลเมื่อเดือนมิถุนายนเป็นการตัดสินใจอย่างมีเงื่อนไข
นอกจากตำแหน่งรัฐมนตรี ยังมีเรื่อง “รัฐธรรมนูญ”
เป้าหมายของพรรคประชาธิปัตย์ คือ อาศัยห้วงในการร่วมรัฐบาล สร้างผลงานเพื่อพลิกฟื้นคะแนนนิยมที่สูญเสียไปให้กับพรรคพลังประชารัฐ
“เงื่อนไข” นั่นแหละคือ “อาวุธ” ของพรรคประชาธิปัตย์