งูเห่า การเมือง ผล รัฐธรรมนูญ 2560 ผล รัฐประหาร
คอลัมน์ – วิเคราะห์การเมือง
วิเคราะห์การเมือง – สถานการณ์การลงมติญัตติด่วนจัดตั้งคณะ กรรมาธิการวิสามัญศึกษาทบทวนผลกระทบประกาศคำสั่งคสช.และคำสั่งหัวหน้าคสช.ตาม มาตรา 44
ดำเนินไปในแบบ “ทวิ–ลักษณะ”
ด้านหนึ่ง เป็นชัยชนะของคสช. เป็นชัยชนะของรัฐบาล เป็นชัยชนะของพรรคพลังประชารัฐ ด้านหนึ่ง เป็นความพ่ายแพ้ของฝ่ายค้านและบางส่วนในพรรคประชาธิปัตย์
แต่ภายในความพ่ายแพ้ของฝ่ายที่เสนอก็เป็นเรื่องดี
เป็นเรื่องดีที่ทำให้บรรดา “งูเห่า” ทางการเมืองที่แอบซ่อนอยู่ภายใน 7 พรรคฝ่ายค้านได้เริ่มสำแดงตัวตนออกมาอย่างน้อยก็ 10 คนเป็นเบื้องต้น
ที่ว่าเป็น “เบื้องต้น” เพราะว่าแนวโน้มและโอกาสที่ “งูเห่า” จะต้องเกิดขึ้นอีก ตราบใดที่ยังมีญัตติด่วนหรือประเด็นร้อนในทางการเมืองดำรงอยู่
เพราะกรณี “งูเห่า” มีองค์ประกอบจาก 2 ส่วน
ส่วนหนึ่ง มาจากทางด้านอุปสงค์ หรือทางด้านที่มีความต้องการ ขณะเดียวกัน ส่วนหนึ่ง มาจากทางด้านอุปทาน หรือทางด้านที่จะสนองตอบ
นั่นก็คือ เมื่อมี “ผู้ซื้อ” ก็ย่อมมี “ผู้ขาย”
ความจริง บรรดาผู้ต้องการเสนอตัวเองในฐานะ “ผู้ขาย” นั้นแม้จะพยายามปิดบังซ่อนเร้นเพียงใด ก็ย่อมจะสำแดงร่องรอยให้เห็นเด่นชัดมากยิ่งขึ้น มาก ยิ่งขึ้นเป็นลำดับ
กล่าวสำหรับพรรคอนาคตใหม่มีร่องรอยให้เห็นมาทีละเล็ก ทีละน้อย เริ่มจากการโหวตในเรื่อง “พระราชกำหนด” ตามมาด้วยการโหวตในเรื่อง “งบประมาณ”
แม้ตอนแรกจะวูบๆ วาบๆ ไปถึง 6 ราย
แต่เอาเข้าจริงๆ ก็เริ่มจำหลักอย่างหนักแน่นว่าน่าจะเป็น 2 หรือ 3 ราย นั่นก็คือ 2 อยู่จันทบุรี นั่นก็คือ 1 อยู่ชลบุรี และวูบๆ วาบๆ อาจเป็น 1 เชียงใหม่
ขณะที่ของพรรคเศรษฐกิจใหม่เหมือนกับจะลึกลับ
เป็นความลึกลับที่มิได้ซ่อนเร้นเพราะมีการเคลื่อนไหวแสดงแววมาเป็นขั้นเป็นตอน จากอาการถอยของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ กระทั่งปรากฏตูมในวันที่ 4 ธันวาคม
มีความเชื่อว่าจำนวน 3 ที่มาจากพรรคเพื่อไทยอาจเป็นรุ่นแรก มีความเป็นไปได้ว่าจะตามมาอีกปริมาณไม่ต่ำกว่า 10 ที่รอท่า รอจังหวะซึ่งเหมาะสม
ความเป็นจริงนี้พรรคเพื่อไทยเองก็ยอมรับด้วยความขมขื่น
ปรากฏการณ์อย่างที่เรียกว่า มีการฝาก 20 ส.ส.ให้ทางพรรคพลังประชารัฐเลี้ยง อย่าคิดว่ามาจากภายนอกด้านเดียว
ตรงกันข้าม อาจเป็นปฏิบัติการ “ต่อรอง” ภาายใน
อ่าน –