กลิ่นอาย งูเห่า กับ ลีลา ประชาธิปัตย์ ละเอียด อ่อนกว่า
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
กลิ่นอาย งูเห่า กับ ลีลา ประชาธิปัตย์ ละเอียด อ่อนกว่า – ทั้งๆ ที่พรรคพลังประชารัฐได้รับอานิสงส์จาก 3 ส.ส.พรรคเพื่อไทย 2 ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ 4
ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ 1 ส.ส.พรรคประชาชาติ
คว่ำญัตติด่วนจากพรรคอนาคตใหม่ พรรคประชาธิปัตย์
แต่ดูจากอากัปกิริยาของ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ประสานเข้ากับอากัปกิริยาของ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล
มิได้องอาจ สง่างามเท่าใดนัก
ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับเสียงร้องไชโย 3 ราในคืนของการจัดมีตติ้งการเมือง ณ สโมสรราชพฤกษ์ ยิ่งมีความห่างไกลจากความคาดหมายเป็นอย่างสูง
อาจเป็นเพราะ 1 ท่าทีของสังคม ไม่ว่าในแวดวงสังคมการเมืองด้วยกัน ไม่ว่าในแวดวงแม้กระทั่งในหมู่ 10 ส.ส.อันได้ชื่อว่าเป็น “งูเห่า” เองก็น่ากังขา
หากเห็นว่าเป็นเรื่องดีงาม น่าสรรเสริญ
เหตุใดจึงต้องมีคำแก้ตัว ไม่ว่าจะมาจาก ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะมาจาก ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ หรือแม้กระทั่ง ส.ส.พรรคประชาชาติ
บางคนถึงกับต้องปิด “เฟซบุ๊ก” หนี
สะท้อนให้เห็นว่าการตัดสินใจของ 10 ส.ส.งูเห่า ไม่ถือว่าเป็นวีรกรรม ตรงกันข้าม กลับเป็นเรื่องน่าอับอาย เป็นเรื่องที่ดึงให้เข้าไปสัมพันธ์กับอามิสและผลประโยชน์
ยิ่งกว่านั้น หากมองเข้าไปภายในของพรรคร่วมรัฐบาลเอง ท่าทีของ 4 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยิ่งเท่ากับเป็นการท้าทายไปยังการกดดันจากประธานวิป
เพราะ 4 คนนี้ยกมือยอมรับ “ญัตติ”
อาจจะเหมือนกับเป็น 4 จากทั้งหมด 53 แต่หากใครลงไปดูในรายละเอียดของญัตติด่วนอันมาจากพรรคประชาธิปัตย์ก็จะยิ่งสยดสยองในอารมณ์
เพราะผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมพรรค
ยิ่งกว่านั้น คนที่ลงชื่อด้วยในการยื่นญัตตินอกจาก 7 คนที่เป็นเจ้าของญัตติยังมีคนระดับ นายสุทัศน์ เงินหมื่น คนระดับ นายกรณ์ จาติกวณิช รวมอยู่ด้วย
การได้ 10 ส.ส. จากพรรคฝ่ายค้านพรรคพลังประชารัฐอาจถือได้ว่าเป็น “กำไร” แต่ท่าทีอันมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ต่างหากที่น่าเป็นห่วง
เพราะพรรคประชาธิปัตย์มี 53 ส.ส.
เพราะพรรคประชาธิปัตย์ยังมีญัตติด่วนจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาหาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 รออยู่
วินาทีแห่งความระทึกใจจึงเกิดได้ตลอดเวลา