ปม รัฐธรรมนูญ “บ่วง” การเมือง สำคัญ รัดคอ “รัฐบาล”
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ปม รัฐธรรมนูญ “บ่วง” การเมือง สำคัญ รัดคอ “รัฐบาล” – ทันทีที่คสช. ทันทีที่พรรคพลังประชารัฐ ยอมรับ 1 ใน 3 เงื่อนไขของพรรคประชาธิปัตย์คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลเมื่อเดือนมิถุนายน
เงื่อนไขนี้ก็กลายเป็น “บ่วง”
เป็นบ่วงที่ในที่สุดรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรคพลังประชารัฐ จำเป็นต้องบรรจุการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วน
มีการแถลงในที่ประชุมรัฐสภาเมื่อเดือนกรกฎาคม
เป็นบ่วงที่ในที่สุดทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ ก็ต้องยื่นญัตติด่วนจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ตามหลังญัตติของพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่
คําว่า “บ่วง” ในที่นี้ดำเนินไปในลักษณะเป็น “ไฟต์บังคับ” ไม่ว่าจะมองจากทางด้านของรัฐบาล ไม่ว่าจะมองจากทางด้านของพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์
นั่นก็คือ ไม่ทำก็ไม่ได้
นั่นก็เห็นได้จาก เมื่อมีกระแสกดดันและเรียกร้องให้เลื่อน “ญัตติด่วนจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ” ให้ได้รับการพิจารณาเร็วขึ้น
สภาก็จำเป็นต้องลงมติเป็นเอกฉันท์
ลักษณะเอกฉันท์ได้ตามมาแม้กระทั่งมติยอมรับญัตติด่วนจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ศึกษาหลักเกณฑ์การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ในที่สุด
ที่น่าขำเป็นอย่างมากก็คือ มติเอกฉันท์นี้เกิดขึ้นบนพื้นฐานที่คสช.ไม่ต้องการแก้ไข เกิดขึ้นบนพื้นฐานความรู้สึกที่พรรคพลังประชารัฐไม่ต้องการแก้ไข
แต่ก็จำเป็นต้องทำท่าทำทางว่าจะแก้ไข
แรกทีเดียวก็มาดหมายให้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน เข้ามากำกับ ต่อมาก็จำเป็นต้องเปิดทางให้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เข้ามารับผิดชอบ
คำถามก็คือ จะสกัดขัดขวางได้หรือไม่
อาจไม่เป็นไปตามความต้องการของพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ หรือแม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ แต่ทุกอย่างก็อยู่ในแสงแห่งสปอตไลต์ครบถ้วน ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้พ้น
กรณีของรัฐธรรมนูญ กรณีของความเรียกร้องต้องการในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จะกลายเป็น “กระแส” กลายเป็นความเรียกร้องต้องการทางสังคม
ต่อให้ 10 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ก็มิอาจขวาง
เพราะทันทีที่กำหนดเอาไว้ให้เป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล กรณีของรัฐธรรมนูญก็ดำรงอยู่ในสถานะอันเป็น “บ่วง” อย่างมีนัยสำคัญ
หากไม่ทำอะไรก็จะรัดคอในที่สุด