วิเคราะห์การเมือง

หากถามว่าทำไมข้อความอัน นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถึงได้เป็นข่าวอย่างอึกทึกและครึกโครม

ตอบได้ว่า เพราะ “เข้าตา”

1 เข้าตากับสถานการณ์ที่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 1 เข้าตากับสภาพความเป็นจริงที่ดำรงอยู่ภายในพรรคประชาธิปัตย์

ไม่ว่า “ข่าวสด” ไม่ว่า “ไทยรัฐ” จึงต้องทำข่าว

แน่นอน เมื่อ นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ให้สัมภาษณ์ขยายความ “คนใกล้ตัว” และ “หอกข้างแคร่” ให้ลึกลงไปในรายละเอียด

ก็ยิ่งทั้ง “เข้าตา” และทั้ง “เข้าทาง”

ไม่เพียงแต่ก่อความหงุดหงิดให้กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หากแต่บรรดาแกนนำ “กปปส.” ที่ทยอยกันเข้าพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องตั้งการ์ด

สรุปได้ว่า สะเทือนทั้ง “ประชาธิปัตย์”

ต้องยอมรับว่าแม้ไม่ได้เก๋าเกมระดับเดียวกับ นายชวน หลีกภัย แต่ นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ก็เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รุ่นเดียวกับ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน

ถือได้ว่าก่อนรุ่น นายถาวร เสนเนียม

เขาผ่านสถานการณ์มหาวิทยาลัยในยุค “สายลมแสงแดด” ผ่านการเขียนกลอนรักกับวารสาร “วรรณศิลป์” มาอย่างสดใส งามตา

เข้าใจการเมืองยุค จอมพลถนอม กิตติขจร

เข้าใจพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่ยุค ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช กระทั่งมาถึงยุค นายพิชัย รัตตกุล และ นายชวน หลีกภัย ทำไมจะไม่รู้ทางของ นายถาวร เสนเนียม

ทำไมจะไม่เข้าใจความหวั่นไหวของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ความหวั่นไหวของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แม้จะมองจากพรรคประชาธิปัตย์ไปยังหมากกลอันส่งผ่านมาจากคสช.และกองทัพ

แต่ก็ตระหนักในความแนบแน่นที่มีต่อ “กปปส.”

เพราะว่าหากไม่มีการเคลื่อนไหวของ “กปปส.” ในห้วงปลายปี 2556 กระทั่งมาตรการ “ชัตดาวน์” นับแต่ต้นปี 2557 ไม่มีรัฐประหารในเดือนพฤษภาคม

เพียงแต่ “กปปส.” จะเดินหมากอย่างไรเท่านั้น

แน่นอน เมื่อทั้ง นายถาวร เสนเนียม และ นายวิทยา แก้วภราดัย เริ่มเดินทางกลับเข้าพรรคประชาธิปัตย์ เท่ากับยืนยันว่าจุดหมายของ “กปปส.” อยู่ที่ใด

เป็นพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน

นับแต่สารอันส่งจาก นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส่งไปยัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วยความห่วงใย

ความห่วงใยนี้ย่อมกระจายไปในทุกหัวใจของชาวพรรคประชาธิปัตย์ และรวมถึงบรรดาแกนนำกปปส.ที่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์อย่างไม่ต้องสงสัย

ภายในความเงียบย่อมมีการเคลื่อนไหวตามมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน