อาการผงาดขึ้น

จากกิจกรรม“วิ่ง ไล่ ลุง”

เผชิญหน้า ท้าทาย

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

กิจกรรม“วิ่ง ไล่ ลุง” – กิจกรรมเพื่อสุขภาพ “วิ่งไล่ลุง” กำลังเป็นหินลองทองอันคมแหลม 1 วัดให้เห็นอารมณ์ในทางสังคม “เบื่อลุง” ว่ามีมากน้อยเพียงใด

1 วัดให้เห็นความอดทน อดกลั้นของ “รัฐบาล”

หากสังเกตท่าทีของรัฐบาลตั้งแต่แรกที่มีการเปิดตัวกิจกรรมเพื่อสุขภาพ “วิ่งไล่ลุง” ขึ้น จะสัมผัสได้ถึงการสบประมาท

ไม่ว่าจะมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะมาจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ขณะเดียวกัน ก็เป็นการสบประมาท ประเมินความเป็นไปได้ต่ำ แต่ก็มิได้ประมาทเห็นได้จากการกดดันผ่านสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ กดดันผ่านโรงแรมแห่งหนึ่งย่านราชดำเนิน

กระนั้น เพียงระยะเวลาอันสั้นและรวดเร็วกระแสตีกลับจากกลุ่มผู้จัดและจากสังคมก็สะท้อนให้รัฐบาลรับรู้ว่ากิจกรรมเพื่อสุขภาพ “วิ่งไล่ลุง” ไม่ใช่ของเล่นๆ ซะแล้ว

1 วัดได้จากการยึดครอง “พื้นที่” ข่าวสาร

ไม่เพียงแต่จะเป็นพื้นที่ข่าวในประเทศ ตรงกันข้าม เมื่อแตะเข้าไปยังสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศก็กลายเป็นเรื่องที่กระหึ่มไปทั่วโลก

1 วัดได้จากการจัด “วิ่งไล่ลุง” ในต่างจังหวัด

เป็นการปรากฏขึ้นในขอบเขตทั่วประเทศ ไม่ว่า ภาคกลางที่นครปฐม ไม่ว่าภาคเหนือที่เชียงใหม่ ไม่ว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อุบลราชธานี ไม่ว่าภาคใต้ ที่ปัตตานี

ความน่าตระหนกตกใจเป็นอย่างสูงก็คือ กิจกรรมเพื่อสุขภาพ “วิ่งไล่ลุง” สามารถยึดครองพื้นที่บนโซเชี่ยลมีเดียได้อย่างคึกคัก เข้มข้น

จำนวนคนลงทะเบียนเหยียบถึงหลัก 10,000

เพียงแค่แฟลชม็อบบนลานสกายวอล์ก ปทุมวัน จำนวนไม่กี่พันคนยังกระหึ่มด้วยเสียงตะโกน “ออกไป ออกไป” ดังกึกก้อง

เสียงวิ่งของคนเรือนหมื่นที่สวนรถไฟจะเป็นอย่างไร

หากมองจากรัฐบาลย่อมต้องวิตกย่อมต้องกังวล เพราะจำนวนเท้าที่กระทบบนพื้นถนนบ่งบอกเป้าหมายอย่างแจ้งชัดว่าต้องการ “วิ่งไล่ลุง”

มองจากพื้นฐานการได้อำนาจมาด้วย “รัฐประหาร” มองจากพื้นฐานการสามารถสืบทอดอำนาจด้วยกลไกแห่ง “รัฐธรรมนูญ” ถือว่ารัฐบาลมีความแข็งแกร่ง มั่นคง

แต่ก็เกิดกรณี “วิ่งไล่ลุง” ขึ้นมาจนได้

แน่นอน คำว่า “ลุง” ในที่นี้จะหมายถึงใครไปไม่ได้นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา

นี่ถือได้ว่าเป็นการท้าทาย “อำนาจ” อย่างตรงตัว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน