ระบบ ระบอบ บดขยี้ อนาคตใหม่ เปิดหน้า เด่นชัด

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

ระบบ ระบอบ บดขยี้ อนาคตใหม่ เปิดหน้า เด่นชัด – อาการของพรรคอนาคตใหม่อันสำแดงออกผ่าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เบื้องหน้ากระโหมกระแสข่าวในเรื่องยุบพรรค

เป็นอาการของใจกล้า ขาสั่นหรือไม่

อาจเป็นเช่นนั้นในเบื้องต้น เนื่องจากทั้ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ก็งุนงงว่าพรรคอนาคตใหม่ทำอะไรผิด

แต่ยิ่งประสบกับข่าว ยิ่งสร้างความเปลี่ยนแปลง

เปลี่ยนแปลงจากที่เคยใจกล้า ขาสั่น กลับกลายเป็นกลัวเสียจนกล้า เพราะรู้อยู่เป็นอย่างดีว่าอะไรคือเป้าหมายของการบดขยี้และทำลาย

ความรู้ของพรรคอนาคตใหม่มิได้เป็นการรู้ด้วยตนเอง ตรงกันข้าม น่าจะเป็นการรู้จากการเปรียบเทียบกับสภาพที่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ประสบมาแล้วมากกว่า

ทำไมจึงมีการยุบพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน

คำตอบอันอยู่นอกเหนือจากการอ้างข้อกฎหมาย คือ ความกลัว เป็นความกลัวต่อชัยชนะและความสำเร็จของพรรคไทยรักไทย

เป็นความสำเร็จอันส่งทอดถึงพรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย

เพียงแต่ต่อความสำเร็จของพรรคไทยรักไทยมาจาก 4 ปีกว่าที่ได้รับเลือกตั้งและแสดงผลงานอย่างเป็นที่จับใจของประชาชน

เป้าหมายเฉพาะการยุบพรรคไทยรักไทยเมื่อเดือนพฤษภาคม 2550 ก็เพื่อที่จะเกิดสภาพอย่างที่เรียกว่า “ผึ้งแตกรัง” นำไปสู่การแยกตัวในทางการเมือง

เป็นพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นพรรคมัชฌิมาธิปไตย

และเมื่อเข้าสู่สนามเลือกตั้งทุกอย่างก็จะเป็นไปตามแผนบันได 4 ขั้นอันจัดวางโดยคมช. นั่นก็คือ ก่อความพ่ายแพ้ให้กับพรรคพลังประชาชน

แต่แล้วการเลือกตั้งเดือนธันวาคม 2550 กลับไม่เป็นตามแผน

จึงมีความจำเป็นต้องออกโรงเคลื่อนไหวใหญ่ยึดทำเนียบรัฐบาล ยึดสนามบิน และที่สุดก็ยุบพรรคพลังประชาชนในเดือนพฤศจิกายน 2551

การทำลายพรรคอนาคตใหม่หากเทียบกับการทำลายพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ระยะเวลาในการกระทำอาจแตกต่างกัน

แต่ก็สะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่น

เหมือนกับเครื่องมือที่จะจัดการกับพรรคอนาคตใหม่คือองค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็นกกต. ไม่ว่าจะเป็นศาลรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อพิจารณาอย่างรอบด้านก็อาจใช่

แต่ความจริงเรื่องพวกนี้กระทำกันอย่างเป็นระบบเป็นระบอบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน