คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ไม่ว่าการเสนอ 4 คำถาม ไม่ว่าการเสนอให้ 4 พรรคการเมืองจับมือกันเพื่อต้านสิ่งที่เรียกว่า พรรคทหาร ล้วนมีเป้าหมายไปยัง การเลือกตั้ง
เพียงไม่กี่วัน คำตอบ ก็เริ่มปรากฏ
เป็นคำตอบจากบางส่วนในพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคำตอบจากบางส่วนในสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)
น่าแปลกที่ทุกอย่างรวมศูนย์ไปยัง ระบอบทักษิณ
พรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า ตราบใดที่ ระบอบทักษิณ ยังมีอิทธิพลอยู่ภายในพรรคเพื่อไทยก็ยากจะจับมือเป็นพันธมิตรกันได้ สปท.เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ กับ กปปส. และคสช. ต้องผนึกกำลังกันมิเช่นนั้นก็จะต้องพ่ายแพ้แก่ ระบอบทักษิณ
สะท้อนถึงความหวาดกลัวต่อ ระบอบทักษิณ และ การเลือกตั้ง
มาถึงทุกวันนี้มีความแจ่มชัดมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับว่า อาวุธอันทรงพลานุภาพมากที่สุดของสิ่งที่เรียกว่า ระบอบทักษิณ คือ การเลือกตั้ง
ไม่ว่าจะอยู่ในชื่อ ไทยรักไทย เมื่อเดือนมิถุนายน 2542
ไม่ว่าจะอยู่ในชื่อ พลังประชาชน หลังรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 หรือเปลี่ยนมาเป็นชื่อ เพื่อไทย ในปัจจุบัน
เพราะเลือกตั้งเดือนมกราคม 2544 พรรคไทยรักไทยชนะ
เพราะเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ 2548 พรรคไทยรักไทยชนะ เพราะเลือกตั้งเดือนธันวาคม 2550 พรรคพลังประชาชนชนะ และเพราะเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554 พรรคเพื่อไทยชนะ
ที่สำคัญอย่างยิ่งยวดคือ ชนะ พรรคประชาธิปัตย์
การปลุกกระแสกระทั่งเกิดรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 ก็เพื่อโค่น ระบอบทักษิณ การปลุกกระแสกระทั่งเกิดรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 ก็เพื่อโค่น ระบอบทักษิณ
ผ่านเดือนพฤษภาคม 2557 มา 3 ปีก็ยังปลุกกระแสอยู่
แม้จะมีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 แม้จะมั่นใจว่าสามารถแต่งตั้ง 250 ส.ว.ได้ตามความปรารถนา แต่ก็ยังหวั่นหวาดเมื่อเดินเข้าใกล้โหมดของ การเลือกตั้ง เข้าไปเป็นลำดับ
จึงจำเป็นต้องเกิด 4 คำถามสะท้อนถึงการไม่อยากเลือกตั้ง
จึงจำเป็นต้องผนึกกำลัง 3 ประสาน ระหว่าง พรรคประชาธิปัตย์ กปปส.และคสช. เพื่อหาทางกำจัดพรรคเพื่อไทย
นั่นก็หมายถึงกำจัด ระบอบทักษิณ เป็นสำคัญ
การจะเลื่อนการเลือกตั้ง หรือการจะไม่ยอมให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในทางเป็นจริงก็มีมูลเชื้อมาจากการถือเอา ระบอบทักษิณ เป็นเป้าหมาย นี่จึงมิได้เป็นความหวาดกลัวอย่างธรรมดาและปกติ
ตรงกันข้าม เป็นความหวาดกลัวที่เริ่มมาจากก่อนรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 และก่อนรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557
เป็น 1 ทศวรรษแห่งความหวาดกลัว