คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
แม้ว่ากัมปนาทแห่งระเบิดที่ “ห้องวงษ์สุวรรณ” จะมีการเอ่ยถึงชื่อของ “โกตี๋” ขึ้นมาเป็นสร้อยถนิมพิมพาภรณ์เพื่อสร้างสีสันแห่งสถานการณ์
เหมือนกับการค้นพบคลังอาวุธที่บ้านของ “โกตี๋” ในปทุมธานี
แต่เมื่อมีการค้นพบ “ไปป์บอมบ์” ในพงหญ้าข้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กลับไม่มีการอ้างอิงถึง
และยิ่งการตรวจพบเอ็ม 67 ผ่านพัสดุภัณฑ์ของเคอร์รี่ เอ็กซ์เพรส ก็เช่นเดียวกัน
พลันที่มีการตรวจจับอาวุธสงครามภายในรถกระบะ4ประตูที่ประสบอุบัติเหตุบนถนนสุขุมวิท พื้นที่อ.เมือง จ.ตราด จำนวนมากมายมหาศาล พร้อมกับ พ.อ.อ.จากกองทัพอากาศ พร้อมกับ ร.ต.ท.หน่วยตรวจคนเข้าเมืองพนมเปญ กัมพูชา
ชื่อของ “โกตี๋” ก็หายไปจาก “สารบบ”
ท่าทีอันมาจากสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติยังไม่ยอมตัดเรื่องระเบิดเอ็ม 67 และอาวุธสงครามที่จังหวัดตราดออกจากประเด็นในทางการเมือง
นั่นหมายถึงอาจสัมพันธ์กับระเบิด “ห้องวงษ์สุวรรณ”
แต่ยิ่งหากดูจากหลักฐานการส่งระเบิดเอ็ม 67 และปืนสั้น ปืนยาว เครื่องกระสุน จากบางเขนออกไปถึง 15 จังหวัดทั้ง ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ยิ่งทำให้สงสัยในขบวนการที่มีทหารยศ “สิบโท” เป็นตัวการ
เมื่อประสานเข้ากับคำสารภาพของ พ.อ.อ.แห่งกองทัพอากาศเรื่องการนำเอาอาวุธจากชายแดนกัมพูชาไปขายให้กับกองกำลังชนชาติส่วนน้อยทางภาคเหนือ
ยิ่งทำให้ภาพขบวนการค้าอาวุธยิ่งมีความแจ่มชัด
แม้จะยังไม่สามารถฟันธงได้ในขบวนการของทหารช่างยศ “สิบโท” แห่งกองทัพบก แต่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. มากด้วยความมั่นใจ
มั่นใจว่าอาวุธที่ตราดไม่เกี่ยวกับ “การเมือง”
เพราะเป็นเรื่องของการค้าอาวุธสงครามล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำเอาสติ๊กเกอร์ “กงจักร” มาติด ไม่ว่าจะเป็นการนำเอกสารปลอมจาก กอ.รมน.
ชัดเจน แจ่มแจ้ง
หากตรวจสอบกระบวนการเกิดขึ้นของข่าว กรณีของจังหวัดตราดเป็นเรื่องของอุบัติเหตุเป็นเรื่องของความซวยโดยแท้ เพราะถนนลื่นรถกระบะ4ประตูประสบอุบัติเหตุ พลเมืองดีซึ่งรวมถึงทหารพรานจะเข้าไปช่วยแล้วก็ต้องผงะ
ผงะเพราะจำนวนอาวุธที่มากับรถกระบะ4ประตู
นี่เป็นเรื่องของกองทัพ เรื่องของทหารโดยแท้ เพราะคนหนึ่งเป็นทหารบก คนหนึ่งเป็นทหารอากาศ
เป็นเรื่องของ ส.ท.ทหารช่างจัดส่งอาวุธสงครามไปตามที่อยู่ เป็นเรื่องของ พ.อ.อ.ทหารอากาศที่นำอาวุธไปขายให้กับกองกำลังชนชาติส่วนน้อยชายแดน
เรื่องระดับ “ค้าอาวุธ” แบบนี้ ชาวบ้านทำไม่ได้หรอก