คอลันม์ วิเคราะห์การเมือง
การที่มีความพยายามผลักดันชื่อ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ให้อยู่ในฐานะ เต็งหนึ่ง ของหมายเลข 1 ในพรรคเพื่อไทยสะท้อนลักษณะประนีประนอมทางการเมือง
เท่ากับเป็นการยื่น นิ้วก้อย ออกมาให้เห็น
เพราะไม่ว่าเพศสภาพ ไม่ว่าภาพลักษณ์เดิมในทางการเมือง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไม่ใช่ภาพลักษณ์ในแบบแข็งกร้าว เดินหน้าชน
ตรงกันข้าม มากด้วยความนิ่มนวล อ่อนหวานในแบบ ผู้หญิง
นี่เท่ากับสรุปบทเรียนและชูจุดเด่นอันได้มาเมื่อพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ามาเป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ หมายเลข 1 ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 แล้วประสบชัยชนะอย่างงดงาม
ยิ่งกว่านั้น ยังอาศัยจุดเด่นของ คุณหญิง
จุดเด่นของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ คือ การสร้างเครือข่ายและสายสัมพันธ์ที่ดีกับบรรดานายทหารมาอย่างต่อเนื่อง
เห็นได้จากความแนบแน่นกับ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร
เห็นได้จากความสัมพันธ์ที่ยาวนานกับ พล.อ.นพดล อินทปัญญา ซึ่งเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
เท่ากับสามารถต่อสายไปยัง คสช. ได้
ความหมายในการผลักดัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หมายความว่าระหว่างคสช.กับพรรคเพื่อไทยอย่างน้อยก็ยังสามารถพูดคุยกันได้ด้วยสันถวมิตรอันสนิทสนม
ถามว่าแล้วคสช.ตอบรับไมตรีนี้อย่างไร
หากดูจากท่าทีที่เดินหน้าอย่างแข็งกร้าวต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในกรณีดำเนินคดีในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ก็แทบไม่มี ผล อะไรมากนัก
อาจเป็นเพราะคดีจากโครงการรับจำนำข้าวเป็นเรื่องเก่าในห้วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และในห้วงก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
เรื่องได้ขึ้นไปถึง ศาล แล้ว ยากที่จะไปทำอะไรได้
กระนั้น หากพิจารณาจากกรณีของร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็เด่นชัดยิ่งว่าคสช.ยังดำรงจุดมุ่งหมายอยู่ไม่เพียงพรรคเพื่อไทย หากแต่ยังครอบคลุมไปยังพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน
นั่นก็คือ หากเป็นตามนี้คนของไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย ไม่รอด
ไมตรีอันพรรคเพื่อไทยพยายามส่งต่อผ่านทางด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จึงเหมือนกับสูญเปล่า
ความนุ่มนวล อ่อนหวานของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไม่อาจทำให้บรรดาทหารหาญแห่งคสช.เกิดความใจอ่อนและผ่อนเบาให้กับพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทยได้
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามจึงอยู่ที่นั่น