คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

“หมายเรียก” อันส่งไปยัง นายวัฒนา เมืองสุข ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 อาจเป็นส่วนหนึ่งของ “แผนกรกฎ 52”

เพื่อสยบ “มวลชน” ก่อนวันที่ 1 และ 25 สิงหาคม

แม้ตามมาติดๆ จะมี “หมายเรียก” จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) จะเป็นของ นายพิชัย นริพทะพันธุ์

สังคมก็ยังมองว่าน่าจะอยู่ใน “แผนกรกฎ 52”

เพราะ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ก็เคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานร่วมกับรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

แต่เมื่อ “หมายเรียก” ไปถึง นายประวิตร โรจนพฤกษ์ ก็เริ่มไม่แน่ใจ

ที่ไม่แน่ใจแม้ว่า นายประวิตร โรจนพฤกษ์ จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์คสช.และรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง แต่ก็กระทำในฐานะ “สื่อ” ซึ่งมีความรับผิดชอบ

เพราะว่าไม่เห็นด้วยกับ “รัฐประหาร”

ไม่ว่าจะเป็นรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าจะเป็นรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 นายประวิตร โรจนพฤกษ์ ล้วนไม่เห็นด้วย

แต่ นายประวิตร โรจนพฤกษ์ เป็นสื่อมวลชน

เป็นสื่อมวลชนซึ่งยึดมั่นในอาชีวปฏิญาณด้วยความมั่นแน่ว ไม่ว่าจะสังกัดเครือ เดอะ เนชั่น ไม่ว่าจะย้ายมาอยู่กับ ข่าวสด อิงลิช อันเป็นออนไลน์ที่โดดเด่น

ไม่มีอะไรเกี่ยวพันกับพรรคเพื่อไทย ไม่มีอะไรเกี่ยวพันกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

หาก “หมายเรียก” ถึง นายประวิตร โรจนพฤกษ์ เป็นไปตาม “แผนกรกฎ 52” ภายในกรอบจากวันที่ 1 ถึงวันที่ 25 สิงหาคม ก็น่าสงสัย

ก็น่าสงสัยว่าอาจไม่จำกัดกรอบเพียง 3 คนเท่านั้น

เพราะในแวดวงโซเชี่ยล มีเดีย ก็ไม่ได้มีแต่ นายวัฒนา เมืองสุข เท่านั้นที่โพสต์ข้อความแบบนั้น หาก นายจาตุรนต์ ฉายแสง ก็โพสต์ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ก็โพสต์

ยิ่งหากขยายวงไปยัง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ยิ่งกว้างขวาง

เนื่องจาก นายพิชัย นริพทะพันธุ์ มุ่งประเด็นในทางเศรษฐกิจเป็นหลัก แทบไม่แตะในเรื่องการเมืองโดยตรง

ขณะที่โพสต์แบบ นายประวิตร โรจนพฤกษ์ ยิ่งมีอย่างไพศาล

จากนี้จึงเห็นได้ว่า หาก “หมายเรียก” เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งภายใน “แผนกรกฎ 52” ก็เท่ากับเป็นการเรียกแขกอย่างกว้างขวาง

ทั้งในทางการเมือง ทั้งในทางเศรษฐกิจ

และขยายวงไปยังกระบวนการทำงานของ “สื่อมวลชน” เพราะสื่อนั้นมิได้เสนอ “ข่าว” อย่างเดียว หากแต่ยังมีการแสดง “ความเห็น” ประสานเข้าไปด้วย

ก่อนถึงวันที่ 25 สิงหาคม คงคึกคักยิ่งกว่านี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน