คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ยังไม่ปรากฏเสียงของโฆษก ไม่ว่าจะจากคสช. ไม่ว่าจะจากตำรวจ ต่อสถานการณ์ของมวลชนที่จะเดินทางมาในวันที่ 25 สิงหาคม
อาจเป็นเพราะยังเหลือเวลาอีก 9 วัน
อาจเป็นเพราะสำนักเลขาธิการคสช.ยังไม่มีการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ว่าแนวโน้มในวันที่ 25 สิงหาคม บริเวณหน้าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะเป็นอย่างไร
ทุกอย่างจึงยังสงบนิ่ง ไม่ปรากฏการเคลื่อนไหว
กระนั้น ภายในความสงบนิ่งของโฆษกจากคสช.และของโฆษกตำรวจที่ดำรงอยู่อย่างเป็นเอกภาพ พวกเขาอาจได้บทเรียนจากอดีตมา
เป็นบทเรียนจากเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม
ต้องยอมรับว่าการคาดหมายสถานการณ์ของวันที่ 1 สิงหาคม ดำเนินไปด้วยความคึกคัก เข้มข้นจากฝ่ายทหารประสานกับตำรวจ
น้ำเสียงของบรรดา “โฆษก” ล้วน “มั่นใจ”
คนหนึ่งถึงกับอ้างอิงสถานการณ์อุทกภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและบางส่วนภาคเหนืออาจเป็นอุปสรรคทำให้ปริมาณมวลชนน้อยลง
เพราะ 2 พื้นที่นี้เป็นฐานใหญ่ของ “เพื่อไทย”
แต่แล้วภาพที่ปรากฏผ่านสถานการณ์ของวันที่ 1 สิงหาคม บริเวณหน้าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทำให้เหล่า “โฆษก” ต้องนะจังงัง
เนื่องจาก “ปริมาณ” ทะยานไปอยู่ที่ “หลักพัน”
เบื้องหน้าสถานการณ์วันที่ 25 สิงหาคมในอีก 9 วันข้างหน้าจึงเป็นการขับเคลื่อนสกัด “มวลชน” ผ่านการปฏิบัติอย่างเข้มข้น
ทั้งในด้าน “ป้องปราม” และลง “พื้นที่”
จากการเปิดเผยของแกนนำนปช.ระบุว่า ไม่เพียงแต่ รถตู้ รถบัส รถรับจ้าง ถูก “บล็อก” แล้วไม่ว่าภาคเหนือ ไม่ว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
หากแม้กระทั่ง “อดีตส.ส.” ก็ถูกประกบ แม้จะออกเงินส่วนตัวก็ไม่ได้
ยิ่งกว่านั้น ทางสตง.ยังเข้าร่วมกับ “แผนกรกฎ 52” ด้วยการนำข้อมูลจากเฟซบุ๊กมาเปิดโดยเน้นน้ำหนักไปยังองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น
ถือได้ว่าเป็นปฏิบัติการ “ป้องปราม” ระนาบเดียวกับ 1,500 บาทต่อคนจากสนช.
ขณะที่หากมองจากพรรคเพื่อไทย มองจากแกนนำนปช.มีความหงอยเหงาอย่างผิดปกติ แต่เมื่อมองไปยังกระบวนการของ “แผนกรกฎ 52” กลับมากด้วยความคึกคัก
มีความมั่นใจว่า “มวลชน” ไม่น่าจะมาก
ไม่น่าจะมากเท่ากับที่เห็นและเป็นอยู่เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม หากปรากฏใกล้เคียงกับ 16 นัดก่อนหน้าเดือนสิงหาคมก็ถือว่าเก่งอย่างยิ่ง
ความมั่นใจนี้มีคำตอบในวันที่ 25 สิงหาคม
