ความเห็น “แย้ง” จาก นายถาวร เสนเนียม ต่อ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ในประเด็นอันเกี่ยวกับ “คณะกรรมการ ยุทธศาสตร์แห่งชาติ”
สะท้อน “นัยยะ”อันซับซ้อน 1 ในทางการเมือง
ขณะที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง เห็นว่าอุบัติแห่งคณะกรรมการยุทธศาสตร์แห่งชาติเท่ากับยืนยันลักษณะแห่ง “รัฐพันลึก” ที่ดำรงอยู่ในสังคมประเทศไทย
และแสดงถึงความคิดในแบบ “ปูลิตบูโร” อันรับมาจาก “คอมมิวนิสต์”
นายถาวร เสนเนียม เห็นว่าเป็นการมองในด้านเดียวและมองข้ามองค์ประกอบของคณะกรรมการที่มีความรักชาติ ห่วงใยประเทศ ที่ดำรงอยู่
เท่ากับเป็นการมองอย่างให้ความหวัง มากด้วยความมั่นใจ
สถานะในความคิดของ นายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นอย่างไร มีความแจ่มชัด มิได้ปิดบังอำพรางแต่อย่างใด ในจุดที่เขาเป็นแกนนำสำคัญคนหนึ่งของพรรคเพื่อไทย
แต่สถานะในความคิดของ นายถาวร เสนเนียม จำเป็นต้องทำความเข้าใจ
นายถาวร เสนเนียม อาจเคยดำรงอยู่ในตำแหน่งรองเลขาธิการและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่การเคลื่อนไหวของเขาในห้วงปลายปี 2556 มีความโน้มเอียงไปทางด้านกปปส.มากกว่า
เป็นกปปส.ซึ่งมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นหัวขบวน
แม้ ณ วันนี้ นายถาวร เสนเนียม จะหวนคืนพรรคประชาธิปัตย์พร้อมกับแกนนำกปปส.อื่นๆ อีก 7 คน แต่ร่องรอยแห่งความเป็นแกนนำกปปส.ก็ยังคงอยู่
การออกมา “สวน” กับ นายจาตุรนต์ ฉายแสง คือ รูปธรรม
ท่าทีของ นายถาวร เสนเนียม ต่อรัฐธรรมนูญและโดยเฉพาะต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์แห่งชาติ เป็นท่าทีเดียวกันกับของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
เหมือนกับจะแย้งกับท่าทีของ นายจาตุรนต์ ฉายแสง โดยพื้นฐาน
กระนั้น หากศึกษาท่าทีของ นายถาวร เสนเนียม เปรียบเทียบกับท่าทีของหลายคนในพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะเห็นว่าเป็นการสวนทางกับของพรรคประชาธิปัตย์อย่างสิ้นเชิง
ไม่ว่าจะเป็นของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ว่าจะเป็นของ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ
2 คนมีความเห็นมากมายต่อรัฐธรรมนูญ มีความขัดเขินเป็นอย่างมากเมื่อกล่าวถึงคณะกรรมการยุทธศาสตร์แห่งชาติ
แม้ไม่เป็นเสียงเดียวกับ นายจาตุรนต์ ฉายแสง แต่ไม่เหมือน นายถาวร เสนเนียม
จากนี้จึงเห็นได้ถึงลักษณะประชาธิปไตยเบ่งบานภายในพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งสะท้อนการต่อสู้ในทางความคิดอย่างยากที่จะปัดปฏิเสธได้
ความคิด 1 เป็นพรรคประชาธิปัตย์ ความคิด 1 เป็นกปปส.
แน่นอน ในขณะนี้อาจกล่าวได้ว่าเสียงของกปปส.เป็นเสียงส่วนน้อย เสียงของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อยู่ในลักษณะครอบงำและยึดครองเหนือกว่า
แต่ใน “อนาคต” อันใกล้ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นเช่นนี้
