วิเคราะห์การเมือง

ไม่ว่าบทสรุปของเจ้าหน้าที่แห่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ว่า การเลือกตั้งจะต้องเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2561 จะถูกมองและประเมินความน่าเชื่อถือค่อนข้างต่ำ

ไม่ว่าจะจาก นายวิษณุ เครืองาม ไม่ว่าจะจาก นายมีชัย ฤชุพันธุ์

แต่ก็ต้องยอมรับว่า “กรอบ” อันจัดทำขึ้นโดยเจ้าหน้าที่แห่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มิได้เป็นสิ่งที่ “มโน” หรือคิดขึ้นเอง

ตรงกันข้าม ยึดเอา “รัฐธรรมนูญ” มาเป็น “บรรทัดฐาน”

นั่นเท่ากับสะท้อนให้เห็นว่า รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 อันประกาศและบังคับใช้เมื่อเดือนเมษายนต่างหากคือ สิ่งที่แต่ละฝ่ายยึดกุม

ทั้งนี้รวมถึง 1 คสช. และ 1 รัฐบาลด้วย

รูปธรรมล่าสุดของการยืนยันอย่างเป็นทางการ คือ การกล่าวของนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ต่อนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นกว่า 600 คนที่ได้รับเชิญให้มาดูงานเกี่ยวกับ อีอีซี ของไทย

ดังที่มีการระบุผ่านรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน”

“ผมได้เน้นย้ำการให้ความสำคัญต่อการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะทางการเมือง จะมุ่งบริหารประเทศตามโรดแม็ปที่ชัดเจนเพื่อเดินหน้าประเทศไทยไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ในแบบฉบับที่สอดคล้องกับบริบทของเราที่ไม่ขัดแย้งกับสากลด้วย

“เมื่อทุกอย่างลงตัวกระบวนการด้านกฎหมายมีความพร้อม ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือมีความปรองดองเราจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า”

นั่นก็คือ ในปี 2561

จากนี้จึงเห็นว่า ไม่ว่า 1 คสช. 1 รัฐบาล และ 1 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ล้วนวางธงแห่งการเลือกตั้งสอดรับ ตรงกัน

นั่นก็คือ การเลือกตั้งต้องมีในปี 2561

เพียงแต่ นายวิษณุ เครืองาม และ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ไม่สามารถระบุเวลาได้อย่างชัดเจน ขณะที่ นายพรเพชร วิชิตชลชัย วางน้ำหนักอยู่ที่เดือนธันวาคม 2561

ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วางกรอบอยู่ที่เดือนสิงหาคม

แม้ว่ากำหนดเวลาอาจจะแตกต่างกัน แต่จุดร่วมอย่างสำคัญก็คือ ทุกคนเห็นเหมือนกันว่าจะต้องมีการเลือกตั้งตามโรดแม็ปภายในปี 2561

หลักการจึงตรึงอยู่ที่ภายในปี 2561 เป็นสำคัญ

น่าสนใจก็ตรงที่คำประกาศในเรื่องกำหนดการเลือกตั้งของไทยสัมพันธ์กับการรับฟังของญี่ปุ่น อย่างมิได้นัดหมายอย่างน้อยก็ 2 หน

หนแรกเมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือนญี่ปุ่น

หนหลังเมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม พานักธุรกิจและนักลงทุนกว่า 600 คนมาเยือนประเทศไทย

ปฏิญญา “โตเกียว” และปฏิญญา “อีอีซี” จึงทรงความหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน