แม้ในด้านของตำรวจ ในด้านของเจ้าพนักงานสอบสวน กรณีการหายตัวไปของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะไม่สามารถระบุได้ว่าตอนนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ที่ไหน
อยู่ในประเทศ หรืออยู่ต่างประเทศ
เพราะไม่ว่าจะฟังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ออกมาแบบนี้ เพราะไม่ว่าจะฟังจาก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ก็ออกมาแบบนี้
เพราะนี่คือ บทสรุปจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล
เนื่องจากในด้านพยานและหลักฐานแม้จะรู้ “เส้นทาง” ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากกทม.ไปยังอรัญประเทศ สระแก้ว แต่หลังจากนั้นไม่สามารถระบุได้ว่าไปไหน
ตำแหน่งแหล่งที่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงยังลึกลับ ดำมืด
กระนั้น หากสอบถาม “ความรู้สึก” ร่วม ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือแม้กระทั่งชาวบ้านทั่วไปต่างมีบทสรุปค่อนข้างแน่ชัด
แน่ชัดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกไปแล้ว
ออกไปจากประเทศไทยตั้งแต่กลางดึกของคืนวันที่ 23 สิงหาคม และอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็ได้พบกับพี่ชาย นายทักษิณ ชินวัตร
แต่พบกันที่ใด สิงคโปร์ ดูไบ หรือลอนดอน ไม่มีใครกล้าตอบ
ความเชื่ออย่างนี้มาจากท่วงท่าและอาการสำแดงออกอย่างต่อเนื่องของ นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ว่าจะผ่านทวิตเตอร์ ไม่ว่าจะผ่านอินสตาแกรม
เพราะว่าเป็นใบหน้าอันระรื่น ชื่นบาน
ความระรื่นชื่นบานอันปรากฏผ่าน นายทักษิณ ชินวัตร ในห้วงหลังวันที่ 25 สิงหาคม เท่ากับยืนยันว่าแผนการอันตระเตรียมเอาไว้สำเร็จเสร็จสิ้น
นั่นก็คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปลอดภัย
หากน้องสาวยังไม่รู้ว่าหลบซ่อนอยู่ตรงไหน นายทักษิณ ชินวัตร คงไม่ออกมาทวีตแขวะซ้ายแขวะขวาอย่างนั้น
เริ่มจาก “มงแต็สกีเยอ” แล้วเลเพลาดพาดไปยัง “รัฐประหาร”
ความหมายของการแสดงออกทั้งหมด คือ รูปธรรมอันสะท้อนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่อยู่ในประเทศอย่างแน่นอน
เพียงแต่ไม่ยอมบอกว่าอยู่แห่งหน ตำบลใดเท่านั้นเอง
กรณีการหายตัวไปของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น่าจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นภายหลังสถานการณ์ของวันที่ 27 กันยายน เป็นต้นไป
คำพิพากษานั่นแหละจะเป็น “จุดเริ่ม”
จุดเริ่มว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะดำเนินการอย่างไร จุดเริ่มว่า นายทักษิณ ชินวัตร จะมีท่าทีอย่างไรต่อไปในทางการเมือง
จุดเริ่มนี้จะยิ่งเพิ่มความร้อนแรง แหลมคม
