ใครที่เคยคิดและประเมินว่ากรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น่าจะจบตั้งแต่การนัดอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม แล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หายตัวไป

วันที่ 27 กันยายน ก็เท่ากับเป็นการตอกฝาโลง

หากทบทวนสถานการณ์นับแต่กลางดึกของคืนวันที่ 23 สิงหาคม เป็นต้นมา กระทั่งมีข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางจากนครดูไบไปยังกรุงลอนดอน ในวันที่ 11 กันยายน

ก็ต้องว่ากรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังไม่จบ

ทุกอย่างดำเนินไปเหมือนกับสโลแกนของภาพยนตร์เรื่อง “แบทแมน” ที่ว่าเป็นสถานการณ์ในแบบเดอะ บีกินนิ่ง ออก ดิ เอนด์ เป็นลำดับ

ลองถามและตอบตัวเองอย่างซื่อสัตย์ก็จะประจักษ์

ปมแรกที่จำเป็นต้องขบคิดมิได้อยู่ที่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หายตัวไปได้อย่างไร เท่านั้น หากแต่ยังอยู่ที่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปถึงนครดูไบและกรุงลอนดอนได้อย่างไร

ปมเหล่านี้มิได้อ้างอิงจาก “ข่าวลือ”

ตรงกันข้าม อ้างอิงจากรายงานของกระทรวงการต่างประเทศ อ้างอิงจากคำยืนยันของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามมาด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

เป็นการยืนยันการอยู่ที่นครดูไบของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

เป็นการยืนยันรายงานของกระทรวงการต่างประเทศต่อนายกรัฐมนตรีว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางจากสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ไปยังสหราชอาณาจักร

ทั้งหมดนี้มิได้มาจาก “ตำรวจ” มิได้มาจาก “หน่วยความมั่นคง”

คำถามอันตามมาจากข้อเท็จจริงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงนำไปสู่คำถามที่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางไปยังกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทำไม

คำตอบก็คือ เพื่อยื่นขอเป็น “ผู้ลี้ภัย”

ความน่าสนใจมิได้อยู่ที่ว่าเรื่องนี้เป็นการรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศอย่างซีเอ็นเอ็นและอย่างรอยเตอร์เท่านั้น

หากแม้กระทั่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีก็ยืนยัน

แม้จะเป็นการยืนยันในลักษณะที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.มิได้ให้ความสนใจ มิได้ให้ความสำคัญ

แต่นั่นแหละคือความสนใจ นั่นแหละคือความสำคัญ

บรรดา “กองแช่ง” ที่ไม่ได้ชมชอบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เลยอาจข้องใจว่า เหตุใดข่าวและการเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงปรากฏอย่างต่อเนื่อง

คำตอบ 1 เพราะความสำคัญของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

คำตอบ 1 ซึ่งทรงความหมายมากยิ่งกว่า เพราะความไม่สนใจ เพราะการไม่ให้ความสำคัญของคสช.และรัฐบาล

จึงได้กล่าวถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างไม่ขาดสาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน