ขณะที่การเคลื่อนไหวทางด้านพรรคเพื่อไทยค่อนข้างสงบ เงียบเชียบ การเคลื่อนไหวทางด้านพรรคประชาธิปัตย์ การเคลื่อนไหวทางด้านพรรคภูมิใจไทย
มากด้วยความคึกคัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ 6 คำถามอันมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับการ “โปรโมต” ไม่ว่าจะจากกระทรวงมหาดไทย ไม่ว่าจะจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน
เสียงจากพรรคประชาธิปัตย์ยิ่งร้อนแรง
เมื่อประสานเข้ากับเสียงจากพรรคภูมิใจไทย ทำให้ “อุณหภูมิ” ทางการเมืองค่อยๆ เหยียบบาทก้าวเข้าไปสู่อีกมิติ 1 ซึ่งต่างออกไปเมื่อ 3 ปีก่อน
ทั้งหมดนี้เนื่องมาจาก 6 คำถาม
ถามว่าเหตุปัจจัยอันใดทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผลักดัน 6 คำถามในทางการเมืองในเรื่องของการเลือกตั้งออกมา
คนที่อธิบายได้ดีที่สุดคือ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด
มั่นใจได้เลยว่าทำได้กระจ่างมากยิ่งกว่า ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา หรือแม้กระทั่งเจ้าตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอง
เพราะว่าถึง “รู้” อยู่ก็ยากที่จะ “บรรยาย”
เหตุมูลฐานอันทำให้เกิด 6 คำถามจากการอธิบายของ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด 1 มาจากความรู้สึกว่าได้ทำอะไรมากมายในห้วง 3 ปีที่ผ่านมา 1 จึงรู้สึกเสียดายเกรงว่าสิ่งที่ทำมาอาจไม่ได้รับปฏิบัติต่อไปหากเป็นรัฐบาลที่ไม่เข้าใจ
ความเสียดายนั่นแหละจึงต้อง “ถาม”
หากนำเอา “คำอธิบาย” มาตีความแบบบ้าน-บ้านก็พอจะมองออกว่า ความเสียดายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นความเสียดายตามแบบของปุถุชนโดยทั่วไป
เมื่อทำ “ความดี” ออกมาแล้วก็อยากรู้ว่ามีคนรู้หรือไม่
โดยพื้นฐานหากคำตอบจากคำถามที่ถามไปตรงกับความรู้สึกก็ย่อมจะดีใจ เพราะเท่ากับว่ามีประชาชนเข้าใจและตระหนักในคุณค่า
แต่ความละเอียดอ่อนของ “คำถาม” อยู่ที่ความต่อเนื่อง
เท่ากับมีความต้องการว่า “ความดี” นี้ไม่น่าจะสะดุดหยุดลงเพียงเพราะถึงเวลาต้องอำลาจากไปและทุกอย่างไปตกอยู่ในมือของคนอื่น
หากได้รับการ “สืบทอด” ก็ย่อมจะเป็นที่ “ปรารถนา”
คำถามอยู่ที่ว่า ใครกันล่ะจะสามารถ “สืบทอด” ได้อย่างยอดเยี่ยมและครบถ้วนตามที่ได้วางเอาไว้ในห้วง 3 ปี หลังรัฐประหาร
เป็นพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคเพื่อไทย อย่างนั้นหรือ
ไม่น่าจะใช่
ทุกคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่า “คำตอบ” ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปรารถนาที่สุด คืออะไร