บรรยากาศการแถลงข่าวเรื่อง “การปรองดอง” ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อ 2-3 วันก่อนดำเนินไปอย่างไม่คึกคักเท่าใดนัก

เมื่อเปรียบเทียบกับการเปิดตัวเมื่อปี 2560

ทั้งๆ ที่เป็นการแถลงโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนเดียวกัน

คนตระเตรียมก็เป็น พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ คนเดิม

แม้ก่อนหน้านี้กระทรวงกลาโหมจะมีการเปิดตัว “น้องเกี่ยวก้อย” ออกมาด้วยความหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่าจะสร้างบรรยากาศแห่งความเป็นมิตรอันสนิทสนมยิ่ง

แต่คล้อยหลังเพียงวันเดียวทุกอย่างก็ “เงียบ”

หลายคนอดนึกถึงบรรยากาศการเปิดตัวโครงการ “ปรองดอง” ที่มีการนำร่องโดย นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ เมื่อปี 2560 ไม่ได้

เพราะมากด้วยความคึก ฮึกห้าวเหิมหาญ

นั่นก็เพราะบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้เป็น “มือประสานสิบทิศ” ในเรื่องปรองดอง สมานฉันท์ จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.และหัวหน้ารัฐบาล

คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

เสียงขานรับจากพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง มากด้วย “ความหวัง” มากด้วยความมั่นใจเป็นอย่างสูงว่าผลลัพธ์จะต้องออกมาอย่างงดงาม สดสวย

เพราะอยู่ในมือ “พี่ใหญ่” แห่งบูรพาพยัคฆ์

จำกันได้ว่าเป็นการเปิดตัวในวาระวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ “วันแห่งความรัก” อันสอดรับกับคำว่า ปรองดอง คำว่าสมานฉันท์อย่างยิ่งยวด

จำกันได้ว่ามีการเล็งผลเลิศอย่างสูงยิ่ง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ถึงกับยืนยันว่าจะสามารถสรุปผลและประกาศเป็น “สัญญาประชาคม” ออกมาภายในวันที่ 13 เมษายน วันสงกรานต์อย่างแน่นอน

แต่เมื่อผ่านวันสงกรานต์ทุกอย่างก็เงียบ

จากสงกรานต์อันเป็นเทศกาลปีใหม่ของปี 2560 เลื่อนมาประกาศและแถลงบทสรุปในเดือนมกราคม 2561 อันเป็นวันปีใหม่ในทางสากล

แต่บรรยากาศที่เคยคึก กลับไม่ฮึกห้าว เหิมหาญ

ที่เป็นเช่นนี้สาเหตุ 1 มาจากอาการถูลู่ถูกังเพราะที่มีการเสนอไปก็ไม่ได้มีการปฏิบัติ และ 1 เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศตนอย่างเด่นชัด

“ผมเป็นนักการเมือง”

ทำให้สถานะที่เคยแสดงตนว่าเป็น “กรรมการ” หมดบทบาทไปโดยปริยาย และยิ่งมีความเด่นชัดว่า แท้จริงแล้วคสช.มิได้เป็นกรรมการหากแต่เป็น 1 ในคู่แห่งความขัดแย้ง

เมื่อประสบกับกรณี “นาฬิกา” เข้าอีกก็เลยยิ่งหงอยเหงา เซาซึม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน