น่าเห็นใจ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล น่าเห็นใจ นายนิติพงษ์ ห่อนาค หรือ “พี่ดี” ของน้องๆ ที่ออกมาแสดงความตระหนกในเรื่องอันเกี่ยวกับ “นาฬิกา” หรู
ท่านแรกอาจจะมองอย่าง “เข้าใจ”
เพราะไม่เพียงแต่รู้จักกับเจ้าของ “นาฬิกา” ตั้งแต่ยังเรียนหนังสืออยู่ด้วยกันในเซนต์คาเบรียล กระทั่งเมื่อเข้ามาร่วมขบวนแห่กับคสช.หลังรัฐประหาร
ท่านหลังอาจต้องปรับจิตปรับใจบ้างเล็กน้อย
เพราะว่าร่ำเรียนมาทางด้านสถาปัตยกรรมและอยู่ในวงการเพลงอย่างด้านหลักไม่ค่อยสันทัดไม่ค่อยรู้เส้นสนกลในอันสลับซับซ้อนของการเมืองมากเท่ากับวงการก่อสร้าง วงการเพลง
แต่ก็ต้องยอมรับว่า 2 ท่านมีความตื่นตระหนก
ความตื่นตระหนกอันสำแดงออกจาก นายนิติพงษ์ ห่อนาค เข้าลักษณะของ “ศิลปิน” มากด้วยอารมณ์ มากด้วยความสะเทือนใจ
ครั้งหนึ่งเคยรัก เคยชมชอบ
แต่พอเห็นการทยอยออกมาของ “นาฬิกา” จาก 1 เรือนเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2560 กลายเป็น 20 กว่าเรือนในกลางเดือนมกราคม 2561
จึงอยู่ในอาการอย่างที่สรุปว่า “ทำใจลำบาก”
กระนั้น ความเห็นไม่ว่าจะมาจาก ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ไม่ว่าจะมาจาก นายนิติพงษ์ ห่อนาค ดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน
นั่นก็คือ อยากให้คนพัวพันกับ “นาฬิกา” ลาออก
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อาจมีความรอบรู้ในเรื่องการเมืองลึกซึ้งมากกว่าจึงยกตัวอย่างการบริหารจัดการในยุคของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
นั่นก็คือ เห็น “รัฐมนตรี” คนไหนอื้อฉาวก็เอาออก
ความหมายของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ก็คือ เมื่อมีความอื้อฉาวอย่างนี้จาก “นาฬิกา” ก็เชื่อว่าในที่สุดก็จะมีการจัดการในเรื่องนี้
หากไม่ลาออกเอง ก็คงมีการให้ออก
ยิ่งหากไปดูอาการฟูมฟายของ นายนิติพงษ์ ห่อนาค ยิ่งใกล้เคียงกัน เพราะเขาเห็นว่ามีแต่ต้องทำอย่างนี้เท่านั้นการดำรงอยู่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงจะสง่างาม
เพราะเท่ากับเป็นการตัด “เนื้อร้าย” ออกไป
คนที่เคยเป็น “กองเชียร์” และเล่นบทเป็น “กองหนุน” คสช.ตามสำนวน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มาตั้งแต่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 คงนึกไม่ถึง
นึกไม่ถึงว่า “คสช.” จะต้องมี “วันนี้”
วันซึ่งคะแนนนิยมลดลง วันซึ่งเพียงประสบเข้ากับความอื้อฉาวของ “นาฬิกา” ก็ทำให้เกิดอาการปัดๆ เป๋ๆ เดินหน้าก็ไม่เป็น ถอยหลังก็ยากลำบาก
เรื่องความศรัทธา “ปืน” แทบไม่ช่วยอะไรเลย
