หากมองจากความเป็นจริงที่ว่า “นาฬิกา” ก็เป็นของเพื่อน ประสานเข้ากับความเป็นจริงที่ว่าแขนที่สวมใส่นาฬิกาก็เป็นแขนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

บทสรุปที่ว่า เป็นเรื่อง “ส่วนตัว” ก็น่าจะถูกต้อง

เช่นเดียวกับ ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มองเห็นกรณี “นาฬิกา” หรูที่กลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ เป็น “เรื่องส่วนตัว” จึงค่อนข้างจะผ่อนปรนอย่างเป็นพิเศษ

ถึงกับเตือนสื่อว่า “อย่าต่อความยาว สาวความยืด”

นั่นก็เพราะว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความสัมพันธ์ในทาง “ส่วนตัว” กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ค่อนข้างแนบแน่น ยาวนาน มีบุญคุณต่อกันมาตั้งแต่เป็นทหารเด็กๆ

แต่ถามว่าเรื่อง “นาฬิกา” เป็น “ส่วนตัว” จริงหรือ

ชาวบ้านที่อาจจะเคลิบเคลิ้มกับการอธิบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จำเป็นต้องยอมรับว่าหากเป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ ทำไมจึงต้องไปอยู่ในมือของ “ป.ป.ช.” เล่า

ก็ ป.ป.ช.มิใช่หรือที่เคยตรวจสอบ “นักการเมือง” มากมาย

ไม่ว่าจะ นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ว่าจะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ว่าจะ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ไม่ว่าจะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นต้น

ทำไมคนเหล่านั้นจึงถูก “ตรวจสอบ” อย่างเข้มข้น

เรื่องของงาช้างที่ได้มาจากบุรีรัมย์ก็ส่วนตัวมิใช่หรือ เรื่องเงินในบัญชีที่ขาดหายไป 45 ล้านบาทก็ส่วนตัวมิใช่หรือ เรื่องนาฬิกา 12 เรือนก็ส่วนตัวมิใช่หรือ เรื่องของทรัพย์สินและหนี้สินก็ส่วนตัวมิใช่หรือ

แล้วทำไม “ป.ป.ช.” ต้องเข้าไปตรวจสอบที่มา ที่ไปด้วย

กล่าวสำหรับกรณี “นาฬิกา” หรูเพียงแค่มีเสียงร่ำลือว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สวมใส่นาฬิกาหลากหลายยี่ห้อไม่ซ้ำกันเลยกว่า 25 เรือน

ชาวบ้านก็ต้องหูผึ่งกันแล้ว

ยิ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกมาบอกว่า “ยืมเพื่อน” ยิ่งทำให้สังคมอยากรู้ว่าเป็นเพื่อนคนไหน และเป็นของเพื่อนคนเดียวกันนั้น 25 เรือนเลยหรือ

เมื่อนาฬิการาคาเกินกว่า 1 ล้านทั้งนั้นย่อมมีสภาพ “พิเศษ”

ขณะเดียวกัน เมื่อตรวจสอบการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อป.ป.ช.กลับไม่ปรากฏว่ามีนาฬิกาเลยแม้แต่เรือนเดียวทั้งๆ ที่เป็นเรื่องอันเกิดขึ้นตั้งแต่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

จึงยิ่งสร้างความโปร่งใส ตรงไปตรงมา

ที่ทำให้ชาวบ้านเกิดความข้องใจมิได้มาจากความพยายามในการทำให้กลายเป็น “เรื่องเล็ก” อันมาจากหลายคนในคสช.และรัฐบาลประการเดียว

หากตัว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั่นแหละที่ทำให้เกิดความสงสัย

เมื่อประสานกับข้อมูลที่ว่าคนมีตำแหน่งใหญ่โตในป.ป.ช.เคยเป็น “เด็ก” หน้าห้องของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาก่อน ความสงสัยจึงเทหนักไปยังป.ป.ช.

“คำวินิจฉัย” ของ ป.ป.ช.จึงตกเป็น “เป้าหมาย” โดยพลัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน