การเดินสายพบกับ “นักการเมือง” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในแต่ละพื้นที่สะท้อนลักษณะเฉพาะ และความแตกต่างออกมาอย่างเด่นชัด
ไม่ว่าจะเป็นที่สุพรรณบุรี ไม่ว่าจะเป็นที่นครปฐม
บางแห่งก็กระทำอย่างเปิดเผย ต่อหน้าประชาชน ต่อหน้าสื่อ บางแห่งก็กระทำอย่างไม่เปิดเผย คล้ายกับจะให้เป็นไปในแบบบังเอิญ
แต่ก็ปรากฏเป็น “ข่าว” ออกมาจนได้
กล่าวโดยสรุปที่ต้องยอมรับว่าร่วมกันก็คือ 1 ทั้งหมดเป็นการพบและโอภาปราศรัยกับนักการเมืองอย่างแน่นอน
และ 1 ซึ่งสำคัญ คือ มีการยื่นหมูยื่นแมว
ประชาชนไม่มีโอกาสรู้หรอกว่าระหว่างคณะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปพบกับคณะของตระกูลสะสมทรัพย์อย่างบังเอิญนั้น
ถ้อยสนทนาแท้จริงเป็นอย่างไร
ยิ่งกรณีของพรรคพลังชล ยิ่งมากด้วยรายละเอียดอันไม่เป็นที่ปรากฏ เพราะที่เห็นและเป็นอยู่ระหว่างลงพื้นที่ที่จังหวัดจันทบุรีก็เสมอเป็นเพียงภาพเป็นข่าว
และทางพรรคพลังชลก็ไม่แน่ว่าจะยกมือให้หรือไม่
ข่าวเล่าลือติดตามมาก็เหมือนกับข่าวภายหลังการพบกับกลุ่มการเมืองที่สุโขทัย ภายหลังการพบกับกลุ่มการเมืองที่สุพรรณบุรี
นั่นก็คือ งบประมาณไหลไปในพื้นที่
อย่าไปตำหนิเสียงจากพรรคประชาธิปัตย์เลยว่า ทั้งหมดนี้คือภาพสะท้อนของการหาเสียงของการสมัครพรรคพวกเพื่อสร้างคะแนนนิยมในทางการเมือง
เป็นบทบาทของนักการเมืองอย่างเด่นชัด
จะแตกต่างก็เพียงแต่นักการเมืองเสมอเพียงการให้คำมั่นสัญญา แต่คสช.สามารถผันงบประมาณลงไปได้เลย
ไม่ว่าจะเป็น “ประชารัฐ” ไม่ว่าจะเป็น “ไทยนิยม”
เป็นการเคลื่อนไหวในขณะที่พรรคการเมืองถูก “มัดตราสัง” ด้วยคำสั่งหัวหน้าคสช.ไม่ให้เคลื่อนไหว ไม่ให้มีการประชุม ไม่ให้มีการแก้ไขแม้กระทั่งข้อบังคับ
ประเด็นอยู่ที่ว่า “หัวหน้าคสช.” เป็นใคร
บรรยากาศอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่ว่าจะจากสุพรรณบุรี ไปยังนครราชสีมา ไปยังสุโขทัย หรือไปยังจันทบุรี
นี่แหละที่เรียกกันว่า “หาเสียง”
เป็นการหาเสียงสร้างคะแนน “ไทยนิยม ยั่งยืน” ผ่านงบประมาณและโครงการแล้วโครงการเล่าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
โดยที่กำหนด “วันเลือกตั้ง” ก็ยังไม่แน่นอน