เหมือนกับว่าเมื่อ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ กล่าวคำ “ขอโทษ” ต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นคนกลาง

เรื่องจะ “จบ”

คำว่า “จบ” ในที่นี้ความหมายแรกก็คือ ไม่มีการลาออกของ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ เท่ากับว่าไม่มีการปรับครม.จาก “ประยุทธ์ 5” เป็น “ประยุทธ์ 6”

ขณะเดียวกัน ความหมายต่อมาก็คือ อนาคตของ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์

ในทางการเมือง ถือได้ว่า นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ไม่ว่าจะยังอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หรือไม่อยู่ก็ตาม

ยิ่งกว่านั้น เรื่องของ “นาฬิกา” ก็ยังไม่จบ

เด่นชัดเป็นอย่างยิ่ง การใช้ศักยภาพแห่งความเป็นผู้นำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เพื่อรักษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้คงอยู่ในรัฐบาล

คำ “ขอโทษ” จาก นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ นั้นเด่นชัด

อย่าลืมเป็นอันขาดว่า ไม่ว่าคำพูดที่กรุงลอนดอนที่ว่า “ผมลาออก” ตั้งแต่นาฬิกาเรือนแรกแล้วของ นพ.ธี ระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ จะดำรงอยู่อย่างไร

เป็นการแอบอัดเสียงของ “นักข่าว”

แต่ความเป็นจริงที่คนทั้งโลกรับรู้ร่วมกันก็คือ ได้มีคลิป ได้ปรากฏเสียงอันแสดงว่าเป็นคำพูดมาจากปากของ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ จริง

มิได้เป็นการบิดเบือน มิได้เป็นการตกแต่ง

“คำขอโทษ” อันออกมาจากปาก นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ จึงเสมอเป็นเพียงมารยาทระหว่างตนกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประจักษ์พยาน

ถามว่าแล้วคำว่าเป็นผม “ลาออก” ไปแล้วจะจางจากหายไปหรือไม่ ขอให้สังเกตอากัปกิริยาอันมาจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นสำคัญ

1 ได้แต่พยักหน้า และ 1 บอกว่าไม่มีความเห็นเพราะเจ็บคอ

บทบาทและความหมายก็คือ คำพูดของ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ได้จำหลักอย่างหนักแน่นอย่างยิ่งแล้ว

และมีเป้าหมายโดยตรงไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ทั้งหมดจึงดำเนินไปตามสภาพความเป็นจริงที่ว่า “แก้ว” ได้ร้าวแยกและใกล้ที่จะพังทลายกลายเป็นเศษแก้วในอีกไม่นาน

ที่ยังเป็นอยู่ก็เสมอเพียงการรักษา “ภาพ” เท่านั้น

กระนั้น ภาพนั้นก็ยังเป็นภาพแห่งความขัดแย้ง ภาพแห่งความแตกร้าวในทางความคิดโดยมี “นาฬิกา” หรูเป็นเนื้อหาใจกลาง

เรื่องของ “นาฬิกา” จึงยังทะลุทะลวงต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน