หากมองผ่าน “ปริมาณ” การเคลื่อนไหวของกลุ่ม Start Up People มีการพัฒนาการที่ไม่เติบใหญ่ในแบบ ก้าวกระโดด

หากแต่เป็นไปอย่างเชื่องช้า

ไม่ว่าจะเป็นการประเดิม ณ บริเวณสกายวอล์ก แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 27 มกราคม ไม่ว่าจะเป็นการเดินเท้าจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ไปยังกองบัญชาการกองทัพบก เมื่อตอนค่ำของวันที่ 24 มีนาคม

ยังคงเป็น “หลักร้อย” ยังไม่ทะยานไปยัง “หลักพัน”

กระนั้น หากพิจารณาจากข้อเสนอและข้อเรียกร้องจะเห็นว่ามีการพัฒนาการ ไม่เพียงแต่ยืนหลักต้องเลือกตั้งภายในเดือนพฤศจิกายน 2561 หากแต่ยังพุ่งปลายหอกเข้าใส่ “คสช.”

ปมอันเกี่ยวกับ “คสช.” นั่นแหละน่าพิจารณา

ที่ว่าน่าพิจารณาเพราะว่าการเดินทางไปบริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพบก เสมอเป็นเพียงการนำร่องในลักษณะสินค้าตัวอย่าง

เป้าหมายอยู่ที่ “เดือนพฤษภาคม” มากกว่า

รายละเอียดคร่าวๆ อันแถลงผ่าน “โรม” และ “จ่านิว” เด่นชัดว่าจะมีจุดเริ่มจากวันที่ 5 อันเท่ากับเป็นการอุ่นเครื่องไปสู่วันที่ 22 พฤษภาคม

เท่ากับย้อนระลึก 4 ปีรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

มองจากทางด้านคสช. มองจากทางด้านของรัฐบาล การเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้ยังดำเนินไปในแบบ Start Up ยังไม่สามารถพัฒนาเป็น “ผลิตภัณฑ์” อันสมบูรณ์และแข็งแกร่ง

แต่ที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ “ประเด็น” ที่มีการ Start Up

บทบาทของคสช.ย่อมสัมพันธ์ไปกับบทบาทของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และบทบาทของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อย่างยากแยกออกจากกันได้

ความชื่นชมต่อคสช.ย่อมขึ้นกับบุคคลทั้ง 2

ถามว่าคะแนนและความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังท่วมท้นเหมือนกับ 1 ปีหลังรัฐประหารหรือไม่ ตอบได้ว่า ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น

โดยเฉพาะนับแต่ปลายปี 2560 มายังต้นปี 2561 ความหงุดหงิดไม่พอใจต่อคสช.และต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีมากเป็นพิเศษ

หากยิ่งใกล้ “เลือกตั้ง” ก็จะยิ่งร้อนแรง แหลมคม

ประเด็นที่คสช.และรัฐบาลไม่ควรมองข้ามก็คือ สถานการณ์จะค่อยๆ ทำให้พรรคการเมืองต่างๆ จำเป็นต้องเลือกว่าจะก้าวไปบนเส้นทางสายใด

หากคสช.ยังได้รับความนิยม ก็ไม่แปลก

พรรคการเมืองก็ย่อมจะรุมตอมราวกับตอมทุเรียน การหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จะเกิดขึ้นอย่างคึกคัก หนักแน่น

แต่ถ้าหากเป็นตรงกันข้ามก็ไม่ยากที่จะคาดเดา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน