การปรากฏขึ้นของ นายเสนาะ เทียนทอง การปรากฏขึ้นของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ การปรากฏขึ้นของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในการยืนยันสมาชิกภาพแห่งพรรคเพื่อไทย

เท่ากับยืนยัน “ความพร้อม”

แม้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะเงียบสงบอยู่บ้านริมคลอง แม้ นายเสนาะ เทียนทอง จะเพิ่งเคลื่อนไหวนับแต่ห้วงวันเกิดครบปี 84 และย่างปีที่ 85

แต่ก็มิได้หมายความว่า 2 คนนี้จะไปไหน

หรือกระทั่งไม่มีเงาร่างของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ไม่มีเงาร่างของ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ แต่ก็เป็นที่เข้าใจในความจำเป็น

การนัดไปเยือนนครปฐมจึงทรงความหมาย

เมื่อผ่านรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 เมื่อผ่านรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 ภายในพรรคเพื่อไทยจึงอ่านเกมการเมืองได้ทะลุ

ทะลุว่าเป้าของ “รัฐประหาร” คืออะไร

เมื่อปี 2549 เป็น นายทักษิณ ชินวัตร เป็นพรรคไทยรักไทย ในปี 2557 เด่นชัดอย่างยิ่งว่าเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

เห็นได้จาก “ยิ่งลักษณ์” ก็เป็นเหมือน “ทักษิณ”

เบื้องหน้าสถานการณ์อันแหลมคมอย่างนี้ทำไม นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ จะอ่านไม่ออก ทำไม นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา จะวิเคราะห์ไม่ได้

จึงมีความจำเป็นต้อง “ปรับ” ในทาง “ยุทธวิธี”

หากติดตามการเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองเก่า ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใหม่ ก็จะสัมผัสได้ในกลเกมแห่งการต่อสู้

ภายใต้กระบวนการเลือกตั้งอย่างนี้มีหรือที่ใครจะยอมเป็น “เป้านิ่ง”

พรรคเพื่อไทยอาจเป็นฐานที่มั่น “หลัก” พยายามรักษาพื้นที่ 350 ส.ส.ระบบเขตเอาไว้ให้เหนียวแน่น ขณะเดียวกัน ก็ต้องมองหา “พันธมิตร”

โดยพันธมิตรอาจมีน้ำหนักอยู่ที่ “เขต” แต่คำนึงถึง “บัญชีรายชื่อ”

อย่าว่าแต่พรรคเพื่อไทยจะต้องคิดกลยุทธ์สร้างพันธมิตรภายในแนวร่วมทางการเมืองเช่นนี้เลย พรรคประชาธิปัตย์เองก็คิด คสช.เองก็คิด

ตรงนี้แหละที่จะต้องติดตามต่อไป

การเมืองในห้วงแห่งการตระเตรียมนี้แม้ไม่มีใครกำหนดได้ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่ก็มิได้หมายความว่าแต่ละฝ่ายจะไม่ขยับขับเคลื่อนอะไรเลย

พรรคเพื่อไทยมิใช่ “ละอ่อน” ในทางการเมือง

เมื่อมีนักการเมืองอย่าง นายเสนาะ เทียนทอง ประสานเข้ากับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ประสานเข้ากับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง

ย่อมมิใช่การตระเตรียมเพื่อ “ตั้งรับ” อย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน