ทำไมพรรคประชาธิปัตย์จึงต้องชูธง 2 ผืนขึ้นสูงเด่น นั่นก็คือ ผืน 1 ต่อต้านนายกรัฐมนตรี “คนนอก” นั่นก็คือ ผืน 1 ต่อต้านสิ่งที่เรียกว่า “ระบอบทักษิณ”

หากติดตามบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์อย่างต่อเนื่องจะเข้าใจ

เข้าใจว่าทำไมพรรคประชาธิปัตย์จะต้องต่อต้านสิ่งที่เรียกว่า “ระบอบทักษิณ” ซึ่งความหมายก็หมายความถึงพรรคเพื่อไทย

คำตอบก็คือ เพราะพรรคเพื่อไทยอยู่ในสถานะ “นำ”

ไม่ว่าจะมีโพลออกมาต่อกี่โพล ไม่ว่าจะผ่านรัฐประหารมากี่รัฐประหาร ล้วนไม่สามารถบดขยี้และทำลายพรรคเพื่อไทยลงได้

คู่ต่อสู้ของพรรคประชาธิปัตย์จึงยังเป็นพรรคเพื่อไทย

ต่อการชูธงต้านพรรคเพื่อไทยและสิ่งที่เรียกว่า “ระบอบทักษิณ” มิได้เป็นเรื่องแปลกหรืออยู่นอกเหนือความคาดหมายในทางการเมือง

คำถามก็คือ แล้วทำไมต้องต้านนายกรัฐมนตรี “คนนอก”

ความหมายอย่างตรงตัวก็คือ คำว่านายกรัฐมนตรี “คนนอก” ย่อมหมายถึงการต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ทั้งๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์สัมพันธ์กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างแนบแน่น

ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์เมื่อเดือนเมษายน 2552 ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์เมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553

ตรงนี้แหละเป็นกลยุทธ์อันมากด้วยคมเขี้ยว

คมเขี้ยว 1 พรรคประชาธิปัตย์ต้องการสร้างภาพความเป็นประชาธิปไตยที่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้งของประชาชน

ไม่ใช่แหวกเมฆลอยมาด้วย “อภินิหาร”

คมเขี้ยว 1 เมื่อพรรคประชาธิปัตย์เล่นบทต่อต้านสิ่งที่เรียกว่า “ระบอบทักษิณ” เพื่อหวังเอาชัยเหนือกว่าพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องการคะแนนเสียงจากคนที่เคยต่อต้านสิ่งที่เรียกว่า “ระบอบทักษิณ”

อันเคยสำแดงก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 อันเคยสำแดงก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

เป็นการชิงความได้เปรียบเหนือกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

จากนี้จึงเห็นได้อย่างเด่นชัดว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องการชิง “การนำ” เอามาจากมือของคสช.และโดยเฉพาะ อย่างยิ่งจากมือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เป็นการเตะสกัดขา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและคสช.

เป็นการตั้งความหวังว่าจะสามารถผนึกพลังทางการเมืองที่เคยแสดงออกตั้งแต่รัฐประหารปี 2549 และต่อเนื่องมายังรัฐประหารปี 2557 มาแวดล้อมพรรคประชาธิปัตย์

แสดงความเหนือกว่าพรรคเพื่อไทย แสดงความเหนือกว่าคสช.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน